การเผยแผ่วิชชาธรรมกาย วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2548 หน้า 74
หน้าที่ 74 / 108

สรุปเนื้อหา

บทสนทนาที่เปิดเผยเกี่ยวกับการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย รวมถึงเรื่องราวความทรงจำจากวัยเด็กเกี่ยวกับหลวงปู่ ชีวิตและคำสอนของท่าน จนเกิดความรู้สึกปลื้มปีติและความสำคัญที่ผู้คนจะรับมรดกแห่งวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก ข้อคิดเรื่องบุญบารมีและทบทวนความสำนึกในชีวิตที่มาจากประสบการณ์ การสัมภาษณ์นี้ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้และการสืบสานปรัชญาของธรรมกายตามคำสอนของหลวงปู่ โดยเฉพาะการเข้าใจถึงบทบาทในฐานะมหาดเล็กของพระราชา

หัวข้อประเด็น

-การเผยแผ่วิชชาธรรมกาย
-ความสำคัญของหลวงปู่
-ประสบการณ์การสืบทอด
-มุมมองจากผู้สัมภาษณ์
-การรับรู้เกี่ยวกับความเป็นตัวตน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เขาจะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก" น้าฟังเรื่อง เหล่านี้จนหลวงปู่มรณภาพและก็ลืมไปเลย จนได้ มาอ่านหนังสือโลกทิพย์ในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ซึ่งเล่มนี้ ลงประวัติวัดพระธรรมกาย เจ้าอาวาสเกิดที่ จังหวัดสิงห์บุรี เลยฉุกคิดถึงเรื่องราวที่ได้ยินตอนเด็ก เลยชวนลูกหลานมาวัดพระธรรมกาย จนเกิดเหตุ ให้ป้าละออร้องไห้ ดังที่เขียนเล่าให้คุณครูไม่ใหญ่ฟัง ส่วนน้าเอง พอเห็นคุณครูไม่ใหญ่ก็ตกกะใจ! ซึ่ง การตกใจครั้งนั้นเป็นครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๑ เมื่อน้าได้ เห็นหลวงปู่ครั้งแรก ที่ตกใจเพราะท่านสว่างมาก พิธีกร: ผงจะพูดถึงผู้สืบทอดตลอดชีวิต ? น้าองุ่น: ใช่จ๊ะ ทุกครั้งที่น้าไปเยี่ยม โดยเฉพาะ ช่วงหลัง เพราะผงป่วย พอเอ่ยถึงผู้สืบทอด ว่า จำได้ไหม? ท่านก็จะตอบมาอย่างนี้แหละ จนสิ้น อายุขัยด้วยวัย ๙๐ ปี * บทสัมภาษณ์ผง มีแก้วน้อย พิธีกร: ช่วงนี้เราลองมา อ่านคำสัมภาษณ์ของปู่ผง (สมัยพ.ศ. ๒๕๓๓) เกี่ยวกับ ผู้สืบทอดที่หลวงปู่เคยพูดไว้ ปู่ผง มีแก้วน้อย: ท่านบอก ว่าตั้งแต่ท่านบวชแต่หนุ่ม จนแก่เนี่ย ก็ไม่มีสิ่งไหนจะ ศักดิ์สิทธิ์เท่ากับเรานั่งธรรมกาย ท่านค้นคว้า หาเหตุผลจนได้เหตุผลดีท่านก็ดำรินั่งเลย เคร่งจริงๆ ผึ้ง มีแก้วน้อย ท่านทำอะไรก็ทำจริง ท่านเอาอะไรก็เอาจริง ไม่ว่า จะแผ่วิชชาธรรมกายนี้ไปทั่วโลกเลย มีคนมาถาม ท่านๆ ก็เล่าให้ฟังอย่างเดียวว่าบุญบารมีของเขามาก ที่เกิดมาใหม่เนี่ย เขาจะแผ่วิชชาธรรมกายขยายไป รอบโลก พิธีกร: เมื่อคุณน้าฟัง Case จากคุณครูไม่ใหญ่จบ รู้สึกอย่างไร ? น้าองุ่น: ปลื้มปีติและดีใจจนร้องไห้ ที่ดีใจและปลื้ม ปีติเพราะได้รู้ว่าเราเป็นใคร ได้เป็นมหาดเล็กของ พระราชาองค์ที่ชอบทำทาน และตัวเองมาจากดุสิต บุรี ไม่เคยคิดว่าตัวเองมาจากดุสิต คิดเพียงว่าทำ อย่างไรจะกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษให้ได้ ที่เสียใจ ทำไมเรามีความตระหนี่ ประมาท คิดช้า เดี๋ยวก่อน เอาไว้ก่อน จนความตระหนี่หลาย ๆ ชาติส่งผล จาก คุณหนูผู้เป็นประดุจดอกฟ้ามาเป็นดอกหญ้าเหี่ยวๆ ในปัจจุบัน พิธีกร: เกี่ยวกับความฝันในฝันของคุณครูไม่ใหญ่ คุณน้าคิดอะไร ? น้าองุ่น: น้าคิดว่าไม่ใช่ฝันในฝัน....แต่เป็นเรื่องจริง คุณครูไม่ใหญ่รู้ทุกอย่าง อยู่ที่ว่าจะพูดหรือไม่พูด แค่นั้นเองแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ท่านรู้จริงรู้ละเอียด ยกตัวอย่างจาก Case ของน้า ประการแรก: เพลงประกอบ Case ที่เป็นลิเก นั่น คือตัวน้าในสมัยเด็ก ชอบเล่นลิเก และชอบแย่งกับ ญาติที่จะเป็นนางเอก น้าลืมไปแล้ว คุณครูไม่ใหญ่ รู้ได้อย่างไร? ไม่ได้เขียนบอกเลย ประการที่ ๒: เป็นคุณหนูชอบแต่งตัว ปัจจุบันก็ ใช่ ชอบแต่งตัวมาก หาเอง ตัดชุดใส่เอง ใส่ส้นสูง ด้วยนะ ใส่แล้วดูซ้ายดูขวาว่าเข้าชุดกันหรือไม่ จะเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด หนักก็เอาเบาก็เอา เอาทั้งนั้น ตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงก่อนเข้าวัดพระธรรมกาย ไม่เลือก ท่านพูดเองว่า! ไอ้สมบัติชิ้นนี้ แหมมันหา ประการที่ ๓. เรื่องผง ลุงหลอม ย่าดา ปู่ผงเป็น คนที่จะรับมรดกยากเหลือเกินเป็นของที่ละเอียดอ่อน มหาดเล็กของพระราชาที่มีหน้าที่บริจาคทานแต่ ยังมองไปไม่เห็นเลยว่า ใครจะรับมรดก ต่อมาท่าน ก็บอกว่า! แล้วต่อมาจะมีคนดีเข้ามาทางสิงห์บุรี เขาจะมีวิชชาธรรมกายเด่นมาก ต่อมาท่านก็บอก อีกว่า! คนดีเขามาเกิดแล้วทางสิงห์บุรี คนๆ นี้เขา เสียดายทรัพย์ของพระราชา ทำให้ชาตินี้ปู่ผงจน ใช่เลย! ผงจนจริงๆ จนขนาดที่น้าไม่อยากให้ใคร ไปเห็นสภาพบ้านเก่าๆ ข้างล่างเป็นน้ำคร่ำ ที่นอนที่กินที่ขี้เยี่ยวก็ตรงนั้น จนๆ ๆ จนกระทั่ง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More