ข้อความต้นฉบับในหน้า
ไม่ได้ ท่านพยายามไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่ทัน
ถึงฝั่งก็จักต้องตาย"
พระโพธิสัตว์ : “เมื่อบุคคลกระทำความเพียร
อยู่ แม้ตัวตายก็ได้ชื่อว่า ไม่เป็นหนี้หมู่ญาติ
มารดาบิดาและเทวาทั้งหลาย บุคคลเมื่อกระทำ
กิจอย่างลูกผู้ชาย ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง
เทพธิดา : "การงานอันไร้ผล มีความลำบาก
เกิดขึ้น การทำความเพียรในฐานะอันไม่สมควรนั้น
จะมีประโยชน์อะไร"
พระโพธิสัตว์ : “ดูก่อนเทพธิดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า
การงานที่กระทำจะไม่ลุล่วงไปได้จริงๆ หรือว่า
ไม่รักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นละความเพียรใน
ฐานะนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้าน
ท่านก็เห็นผลแห่งกรรมประจักษ์แล้วมิใช่หรือ
คนอื่น ๆ จมลงในมหาสมุทร เหลือเราคนเดียวยัง
ว่ายน้ำอยู่ และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้ๆ เรา
เรานั้นจักพยายามต่อไปตามกำลังสติปัญญา
ของตน จักทำความเพียรที่บุรุษควรทำ ไปให้ถึง
ฝั่งแห่งมหาสมุทร”
เทพธิดาได้สดับพระวาจาอันมั่นคงของ
พระโพธิสัตว์ จึงสรรเสริญและได้นำพระองค์ไปถึง
เมืองมิถิลานครด้วยอานุภาพแห่งเทวฤทธิ์ ในที่สุด
พระองค์ก็ได้ครองราชสมบัติในเมืองมิถิลา ใน
เวลาที่พระองค์ประทับ ณ พระราชอาสน์ภายใต้
เศวตฉัตร ทรงระลึกถึงความพยายามที่พระองค์ได้
ทรงกระทำในมหาสมุทร ทรงเปล่งอุทานว่า “ความ
เพียร ควรทำให้ถึงที่สุด ถ้าเราไม่ได้ทำความเพียร
ในมหาสมุทร ก็จักไม่ได้สิริสมบัตินี้
ตั้งแต่นั้นมา พระโพธิสัตว์ก็ทรงบำเพ็ญ
ทศพิธราชธรรมได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ ทรงถวาย
ทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า และทำการสงเคราะห์
พสกนิกรที่ตกทุกข์ได้ยาก ทำให้กรุงมิถิลานคร
เจริญรุ่งเรือง ครั้นต่อมา พระนางสีวลีเทวีได้
ประสูติพระโอรสชื่อ “ทีฆาวุกุมาร” พอเจริญวัย
ก็ทรงประทานตำแหน่งมหาอุปราช ทรงครอง
ကာ