ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อเดินทางเข้าสู่ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง พระโพธิสัตว์ทรง
ถอนหญ้ามุงกระต่ายขึ้นมาแล้วตัดขาดจากกัน
ทรงยื่นคำขาดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสอง
สิ้นสุดแล้วเหมือนหญ้ามุงกระต่ายที่ขาดจากกัน
ตั้งแต่นี้ไปพระนางอย่าได้ติดตามมาเลย พระนาง
ถึงแก่วิสัญญีภาพล้มลงกลางถนน พระโพธิสัตว์
แทนที่จะสงสาร กลับรีบก้าวพระบาทเสด็จเข้าป่า
ไปโดยไม่เหลียวหลัง
เมื่อพระนางสีวลีเทวีรู้สึกพระองค์ขึ้นมา
ตรัสถามทางที่พระองค์เสด็จไป แต่ไม่มีใครทราบ
แม้ว่าพระนางจะรับสั่งให้เที่ยวค้นหาอย่างไร ก็ไม่มี
ใครสามารถพบพระราชาอีกเลย พระโพธิสัตว์ทรง
ใช้เวลาเพียง 9 วันก็สามารถทำฌานและอภิญญา
ให้เกิดขึ้นได้ฝ่ายพระนางสีวลีเทวีเห็นว่าหมดหนทาง
จะตามเจอแล้ว จึงจำยอมเสด็จกลับพระนครด้วย
ความผิดหวัง ทรงให้สร้างพระเจดีย์หลายองค์เพื่อ
บูชาพระโพธิสัตว์ ได้ทำการบูชาด้วยของหอมและ
ดอกไม้เป็นต้น ทรงทำการอภิเษกพระราชโอรส
ขึ้นเป็นพระราชาองค์ต่อไป แล้วพระนางก็ทรงทำ
ตามคำแนะนำของพระมหาชนก ด้วยการออก
ผนวชเป็นดาบสินี ประทับอยู่ในพระราชอุทยาน
แห่งนั้น ทรงทำกสิณบริกรรมจนได้บรรลุฌาน เมื่อ
ละโลกไปแล้ว ก็ได้บังเกิดในพรหมโลก
เราจะเห็นว่า พระโพธิสัตว์ทั้งหลายไม่เคย
ท้อถอยในการทำความเพียร ทุ่มเทชนิดเอาชีวิต
เป็นเดิมพัน แม้รู้ว่าจะไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ถ้ารู้ว่า
หากสำเร็จก็จะเกิดประโยชน์ใหญ่ ก็ยังทุ่มเทจนสุด
กำลัง ขณะเดียวกัน ท่านมองเห็นโลกและชีวิต
อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง แม้จะได้เป็น
ใหญ่ในปฐพีก็ไม่มีเยื่อใยในเบญจกามคุณทั้งหลาย
เพราะท่านมีดวงปัญญาบริสุทธิ์ และเคยผ่านชีวิต
ในสังสารวัฏมายาวนาน จึงรู้ว่าพระนิพพานเท่านั้น
ที่เป็นเป้าหมาย และอยู่นอกกรอบของอวิชชา อยู่
นอกกรอบของสังสารวัฏ จึงมีความเพียรพยายาม
อย่างไม่ลดละ ที่จะไปให้ถึง ส่วนผู้ไม่รู้ เพราะเห็น
แต่ความสุขในปัจจุบันเท่านั้น ก็มัวแต่หลงวนเวียน
อยู่กับกระแสโลกกันต่อไป
เพราะฉะนั้น พวกเราทั้งหลายต้องตระหนัก
เรื่องความเป็นจริงของชีวิตกันให้ดี อย่าได้ประมาท
อย่ามัวเพลิดเพลิน ให้เห็นภัยที่สามารถจะเกิดขึ้น
กับชีวิตเราได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งภัยจากความ
ตายที่อยู่รอบตัว แล้วตั้งใจทำความดีทุกเวลานาที
เพื่อบ่มบารมีให้แก่รอบ บารมีของเราก็จะได้เต็ม
เปี่ยมบริบูรณ์ และได้สมหวังในการบรรลุมรรคผล
นิพพานกันทุกคน.....
៣៨