ความขัดแย้งระหว่างแม่ลูกและการหาทางออก วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน สิงหาคม พ.ศ.2549 หน้า 41
หน้าที่ 41 / 84

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเล่าถึงความขัดแย้งระหว่างแม่และลูกชายที่ไม่ได้พูดคุยกัน แม้จะอยู่บ้านเดียวกัน ทำให้เกิดความทุกข์ในใจทั้งสองฝ่าย การทำสมาธิช่วยให้แม่สามารถมองเห็นปัญหาจากมุมมองใหม่ การนั่งสมาธิและการปรับเปลี่ยนทัศนคติช่วยให้แม่เข้าใจประเด็นต่างๆ และมองเห็นทางออกได้ชัดเจนขึ้น จึงเป็นแรงกระตุ้นให้เธอพยายามสื่อสารกับลูกอีกครั้งในบรรยากาศที่สงบ

หัวข้อประเด็น

-ความขัดแย้งในครอบครัว
-การทำสมาธิ
-ความเข้าใจระหว่างแม่ลูก
-การหาทางออกจากความเครียด
-การสื่อสารในครอบครัว

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การไม่ได้พูดกับลูก ทั้งๆ ที่เห็นหน้ากันทุกวัน ในบ้านหลังเดียวกันนั้น ทรมานกว่าการขัดเคืองใจกับใครต่อใครทั้งโลกหลายเท่านัก กัลฯ อัญชลี อุบลรัศมี ผู้จัดการของบริษัท แห่งหนึ่ง ในประเทศเนเธอร์แลนด์ กำลังเผชิญกับ ความขมของชีวิต เพราะตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอและลูกชายอันเป็นที่รัก ไม่ได้พูดจากันเลยสัก ครึ่งคำ แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก ของความขัดแย้ง กับผู้คนจนถึงขั้นหงุดหงิดใจไม่อยากพูดคุยด้วย แต่นั่นก็เพียงคนอื่น แต่การไม่ได้พูดกับลูก ทั้งๆ ที่เห็นหน้ากันทุกวัน ในบ้านหลังเดียวกันนั้น ทรมานกว่าการขัดเคืองใจกับใครต่อใครทั้งโลก หลายเท่านัก “ตอนนั้น เราสองแม่ลูกมีเรื่องขัดแย้ง ภายในครอบครัว คุยกันยังไงก็ไม่เข้าใจ เหมือน พูดคนละเรื่อง พอคุยกันสักพัก เราเองก็ชักจะทน ไม่ไหว เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้โมโหอยู่แล้วด้วย พูดๆ ไปเสียงชักจะเข้มและมีอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจเดินหันหลังให้ เดินเข้าห้องปิดประตู ห้องใครห้องมัน” ไม่เพียงประตูห้องที่ปิด แม้แต่ ความสุขทางใจของคนทั้งสอง ก็ถูกล็อกลงกลอน ด้วยเช่นกัน ทางด้านมัสลองลูกชายคนโตของเธอ เด็กหนุ่มที่โดยปกติเป็นคนพูดน้อย สุภาพ และ สงบเงียบเรียบร้อย แต่ในความสงบของเขา ก็ เปรียบดังภูเขาไฟที่ดูสวยงามเมื่อยามปกติ แต่ หากภูเขาไฟลูกนี้ปะทุ ก็ยากที่จะยับยั้งอารมณ์เช่น กัน “ผมจะเป็นคนใจร้อนและขี้โมโหครับ บางครั้ง ถ้าโมโหใครขึ้นมาก็จะโกรธจนอยากจะเข้าไปต่อยคน หรือฆ่าคนไปเลยครับ” หลังจากเหตุการณ์วันนั้น มัสลองเฝ้าแต่หมกตัวอยู่ในห้อง แต่ก็แอบมองทุก ครั้งที่แม่เดินออกไปทำงาน และเดินกลับเข้ามา ยามเลิกงาน ซึ่งในแต่ละวันก็ดึกดื่นแทบทุกคืน “ผมคิดว่า ยังไงผมก็ไม่ยอมครับ เพราะผมไม่ได้ ผิดอะไร พอถึงเวลาอาหารผมก็ทำทานเอง เพราะ ผมทำอาหารเป็น” สำหรับคุณแม่ ก็ชะแง้มองไปที่ ประตูห้องของลูกอยู่เสมอ ลูกชายจะเป็นอย่างไร ทานอะไรบ้างแล้ววันนี้ บ่อยครั้งที่เธอเผลอจะ เข้าไปถามไถ่ว่าทานอะไรบ้างแล้วหรือยังลูก ดัง เช่นทุกๆ วันที่เธอเคยเป็นมา แต่ครั้งนี้เธอต้อง ชะงักเท้าเอาไว้ “เหมือนเรากำลังทำสงครามของ ความรู้สึก ต่างคนก็คิดว่าจะไม่ยอมแพ้” หนึ่ง อาทิตย์ผ่านไป เข้าสู่อาทิตย์ที่สอง ทุกอย่างยังคง หมุนวนซ้ำ ๆ ดุจกังหันลมแห่งเนเธอร์แลนด์ ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะทำงาน เดินกลับบ้าน ก่อน หลับตานอน เรื่องนี้วนเวียนและว้าวุ่นอยู่ในสมอง จนกระทั่งวันหนึ่งในสัปดาห์ที่สาม เธอเดินเข้า ห้องพระ และนั่งสมาธิ ตามวิธีที่หลวงพ่อธัมมชโย ท่านสอน ใน DMC ทีวีช่องธรรมะที่เธอจูนพบโดย บังเอิญมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ "รู้สึกเครียดมากๆ เราก็เลยนั่งสมาธิ หลับตาลงเบาๆ วางใจไว้ที่ ศูนย์กลางกาย คิดว่าในท้องเราไม่มีตับไตไส้พุง นึกองค์พระไปเรื่อยๆ เพลินๆ สักพักก็รู้สึกสงบ เหมือนใจเราตกตะกอน สงบนิ่งมากๆ รู้สึก โล่ง โปร่ง เบาสบาย เหมือนกับตัวเราคลายจากสิ่งต่างๆ เรื่องที่ค้างใจกับลูกชายก็กลับเข้ามาอีกครั้ง แต่ เป็นการกลับมาในขณะที่ใจเรามีสมาธิอยู่เต็มร้อย เราคิดอะไรได้ชัดเจน ความคิดเป็นระเบียบขึ้น ช่วงเวลานั้นเราเหมือนมีดวงใจเป็นแม่ของเราเอง และสอนเราว่า ความเป็นแม่ใช่ว่าจะคิดเห็นอะไร ต่าง ๆ ได้ถูกต้องเสมอไป มันก็บ่อยครั้งที่เรา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More