พระสัมมา-สัมพุทธเจ้า : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 69 / 170

ประกอบอาชีพติรัจฉานวิชา ด้วยการดูโชค ดูเคราะห์ ให้ฤกษ์ วิวาหมงคล ใบ้หวย ทำการผ่าตัด รักษาโรค ฯลฯ เหล่านี้ หาก กระทําเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่ญาติโยม ก็คง จะไม่เสียหายอะไรนัก แต่ถ้าทาเป็นป

บทความนี้พูดถึงการประกอบอาชีพที่ไม่ขัดต่อหลักพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ภิกษุ ผู้ซึ่งควรประพฤติปฏิบัติตามหลักศีลและจิตบริสุทธิ์ เพื่อให้สามารถบรรลุวิชชา ๘ และหลุดพ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต พุทธเจ้าทรงแ

ตามหลักฐานในคัมภีร์พระพุทธศาสนาปรากฏว่า เมื่อ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาแล้ว ครูทั้ง 5 ก็อับรัศมีลงเป็นอันมาก ถึงกับมีการจ้างคนมาใส่ร้ายป้ายสี พระพุทธองค์หลายครั้ง เพื่อทำลายชื่อเสียงเกี

ตามคัมภีร์พระพุทธศาสนา เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศศาสนา ครูทั้ง 5 มีอันต้องเสื่อมลงและถูกใส่ร้าย แต่พระพุทธองค์ไม่สิ้นสง่า เนื่องจากคำสอนของครูทั้ง 5 ไม่สามารถแก้ปัญหาชีวิตได้จริง sสาเหตุที่ทำให้ไม

หลักการนั้นประกอบด้วยองค์ ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ส่วนเป้าหมายอันเป็นอุดมการณ์สูงสุดก็คือ “ความ หลุดพ้นจากอาสวกิเลสทั้งปวง” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานอรรถาธิบายหลักการ ไว้โดยละเอียด ทรงย้ำอยู่ตลอดว่า

หลักการของความหลุดพ้นประกอบด้วยศีล สมาธิ และปัญญา เป้าหมายสูงสุดคือการหลุดพ้นจากอาสวกิเลส ทั้งนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อธิบายวิธีปฏิบัติอย่างละเอียด หากปฏิบัติตามอย่างบริบูรณ์จะบรรลุเป้าหมายได้แน่นอน

ผู้บุกเบิกสร้างวัด ให้รักบุญ รักการสร้างความดี โดยเฉพาะ อย่างยิ่งให้รักการปฏิบัติธรรม และหมั่นฝึกฝนให้เข้าถึงพระ รัตนตรัยภายใน อันเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงของตนเอง และ จะยังประโยชน์แก่ชาวโลกได้ในภ

เรื่องราวเกี่ยวกับผู้บุกเบิกการสร้างวัดที่มุ่งหวังให้คนรักการสร้างความดีและปฏิบัติธรรม โดยคุณยายได้ถ่ายทอดความรู้ในการครองตนและสร้างบารมีอย่างมั่นคงและสุขใจ นอกจากนี้ยังอบรมการดูแลเสนาสนะและใช้สมบัติพ

๒ เพราะฉะนั้น ทั้งสองประเด็นนี้เท่ากับบอก ว่า เมืองไทยไม่ได้จน คนไทยไม่ได้ขาดปัญญา แต่ทำไม ทั้งๆ ที่เมืองไทยมีต้นทุน ทั้ง ทรัพยากรคน และทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดีต่อการ พัฒนาประเทศถึงเพียงนี้ ประเทศไทยกับ

ประเทศไทยมีต้นทุนทั้งด้านทรัพยากรคนและทรัพยากรธรรมชาติที่ดี แต่ยังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ยาเสพติด และความยากจน การแก้ไขปัญหาต้องขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน โดยยึดหลักศีลธรรมเป็นหัวใจสำคัญในการพั

๗ วณิชชสูตร ว่าด้วยการค้าขาย ครั้งนั้นท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ ภาคเจ้าฯลฯ ได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้การค้าขายอย่างเดียว กัน พ่อค้าบางคนประกอบแล้วขาดทุ

ในวณิชชสูตร พระสารีบุตรได้ถามพระผู้มีพระภาคเกี่ยวกับเหตุและปัจจัยที่ทำให้การค้าขายแตกต่างกัน ในขณะที่บางคนประสบความสำเร็จและบางคนล้มเหลว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการค้าคือการเข้าไปหา

๒๐ ๒๑ แล้วได้กำไร เพียงแต่กลุ่มที่ ๒ นั้น ไปติดอยู่ที่ว่า ได้กำไรไม่เท่าที่หวังเอาไว้สักที ต้องมีเรื่องให้กำไร ลดหย่อนลงไปทุกที พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเฉลยเอาไว้ ด้วย ถ้อยคำตอบสั้นๆ ว่า พวกนี้ ถ้าพูดให

บทความนี้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเบี้ยวบุญ ว่าคือการดูแลพ่อแม่และพระภิกษุในลักษณะที่ไม่เต็มที่ ส่งผลต่อผลกำไร โดยเปรียบเทียบกับนาข้าวที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ย ผลลัพธ์ที่ได้จะน้อยและลีบ หลักการนี้จะช่วยในการเข้าใ

๒๖ ๒๗ ๓. ข้อคิดจากวณิชชสูตร ทั้งหมดนี้คือ การสะท้อนความคิดให้เราได้ ข้อคิดในการประยุกต์ใช้อะไรบ้าง ๑. สะท้อนให้เห็นว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมองทะลุเรื่องราวทั้งหลายในโลกนี้ได้อย่างดีเยี่ยม เกินกว่าท

ในบทนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความคิดที่สามารถประยุกต์ใช้จากวณิชชสูตรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน สื่อให้เห็นว่าทรงมองโลกและเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งกว่าที่เราจะมองเห็น โดยส่วนมากคนมักมองแค่ในปัจจุบั

๒๘ สู้กับคู่แข่งในท้องตลาด และสามารถประสบความ สำเร็จทางการค้าได้ ซึ่งถ้ามองกันเพียงเท่านั้นก็ถือว่า ถูก แต่ว่าเป็นการถูกในระดับปัจจุบันหรือในระดับที่ มองเห็นด้วยตาเปล่า แต่ในระดับลึก คือเรื่องของความเ

บทความนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสัจจะในชีวิตและการทำสิ่งที่พูดออกไปให้สำเร็จ มันกล่าวถึงการใช้ศักยภาพของตัวเราและทรัพยากรต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อคำพูดของเราอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังเน้นความสำคัญของกา

៣៦ ๓๓ เมื่อสำรวจตรวจสอบดูแล้ว ว่าการทำมาค้า ขายของเราจัดอยู่ที่กลุ่มไหน มีข้อบกพร่องอะไร ก็ ขอให้แก้ไขให้ได้ภายในชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย แต่ถ้า ทุกอย่างดีเลิศอยู่แล้ว ก็ขอให้รักษาความเป็นเลิศนี้ ตลอดไป

บทความนี้เสนอแง่มุมเกี่ยวกับการทำมาค้าขายว่าเมื่อรู้จักแก้ไขข้อบกพร่องและรักษาความเป็นเลิศในธุรกิจ จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่เข้าใจเหตุผลทั้งอดีตและปัจจุบันจะมีบุญยิ่

1 เรื่อง คุณค่าอาหาร การให้พร โดย หลวงพ่อทัตตชีโว เทศน์ให้กับธรรมทายาทรุ่น 18 จำนวน 458 คน ณ ศูนย์ฝึกอบรมธรรมยาท เนื่องในโอกาสอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อน รุ่น 18 วันพฤหัสที่ 29 มีนาคม 2533 เวลา 11:09 - 12

ในเทศน์โดย หลวงพ่อทัตตชีโว ได้กล่าวถึงความสำคัญของการสังเกตตัวเองและธรรมชาติรอบตัว สอดคล้องกับการดูแลเกี่ยวกับอาหารที่เราบริโภค เน้นให้เห็นว่าเราควรใช้วิธีการฝึกฝนความสังเกต เพื่อไม่ให้เกิดการใช้จ่ายห

2 วิธีก็คือ สิ่งที่เขาบริจาคให้เรามาเราจะใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งเป็นวิธีตอบแทนคุณของเขาได้อย่างง่าย ๆ นะ เป็นวิธีที่ ยิ่งกว่านั้น ถ้าเราได้ติดตามวิธีการฝึกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะพบว่า พระองค์ย

บทความนี้กล่าวถึงแนวทางการรับประทานอาหารให้ได้คุณค่าที่สุดตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า โดยเน้นการมองอาหารไม่เพียงแค่คุณค่าทางกายภาพ แต่ยังรวมถึงคุณธรรมและมารยาทในการบริโภค รวมถึงการไม่ให้ตนเป็นทาสของอาหา

1. เราจะก๋าจัดความหิวไปเสีย 2. ให้มีแรงขึ้นมาจะได้ปฏิบัติธรรม 3. แล้วต้องไม่ทำให้ศรัทธาของญาติโยมเสียไปด้วย ต้องรักษาศรัทธาเขาเอาไว้ 4. ยิ่งเราเอาเรี่ยวแรงไปฏิบัติธรรม จนเข้าถึงธรรมะของพระพุทธเจ้าได้

การบูชาข้าวพระเป็นการแสดงความเคารพและเพิ่มพูนบุญบารมี โดยการเตรียมใจให้ผ่องใสก่อนที่จะรับประทานอาหาร โดยการนึกน้อมข้าวปลาอาหารและตั้งใจบูชาพร้อมกับการตั้งอธิษฐานเพื่อสร้างบุญทั้งในปัจจุบันและในอดีต กา

คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า ๑. กอนเกิดมาจากไหน ๒. จะตายเมื่อไหร ๓. ตายแล้วจะไปไหน สิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ ดังนั้น จึงไม่มีใครเลยที่กล้าพูดยืนยันว่า ฉันพร้อมแล้วที่จะตาย ไม่มี เพราะไม่รู้ว่าวันไหนคืนวันตาย เตรีย

คนส่วนใหญ่ไม่รู้ที่มาของชีวิต วันตาย และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังความตาย ทำให้ไม่กล้าทำความดีและมีโอกาสทำความชั่ว ศาสนาได้พยายามให้คำตอบเกี่ยวกับการเกิดและความตาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงการเกิดและความ

กำเนิดโลก ตามคติของพระพุทธศาสนา เรามาฟังเรื่องการกำเนิดของโลก ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีกว่า พระองค์ตรัสไว้อย่างมีเหตุผล แล้วเรื่องนี้พระองค์ตรัสเทศน์ไว้นี่ ไม่ใช่เทศน์ให้พระฟังนะ แตเทศน์ใหสามเณร

ในบทนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สอนสามเณรวาเสฏฐะและสามเณรภารทวาชะเกี่ยวกับการกำเนิดของโลก โดยอธิบายว่าโลกนี้มีการเกิดขึ้นและแตกดับได้ ไม่ทนถาวร เมื่อมีคนบาปและกิเลสเกิดมาก ทำให้ธาตุในโลกแปรปรวน เช่น ไฟไ

7 ตัวอย่างที่พระองค์เทศน์ไว้นี่ เป็นลักษณะไฟไหม้โลกอย่างที่เราเรียกกันในภาษาศาสนาว่า ไฟบรรลัยกัลป์ แต่นักวิทยาศาสตร์เขาเรียกว่า โลกเป็นหมอกเพลิง เป็นดวงไปดวงใหญ่ไปเลย เวลาธาตุในโลกวิกฤติขึ้นมา เกิดไฟบ

บทความนี้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับไฟบรรลัยกัลป์ที่มีรากฐานมาจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมองว่าเมื่อมนุษย์มีความกิเลสหนา การเกิดไฟบรรลัยกัลป์จะทำลายโลก และนำไปสู่การเกิดน้ำท่วมอย่างที่เราเห็นในปัจจุ

9 ระยะที่เป็นหมอกเพลิงนะ ถูกไหม้ไปเตียนเลย แม้แต่พื้นโลกที่เป็นแผ่นดินนี้ เมื่อเกิดขึ้นมาใหม่ๆ จะหอม กลิ่นสะอาดขนาดไหนก็ขอให้พวกเราลองไปดมอิฐที่เผาออกจากเตาใหม่ๆ ก็แล้วกัน หรือหม้อดินที่เผาออกมาจากเตา

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับการเกิดใหม่ของโลกหลังจากที่เกิดไฟไหม้ติดต่อกันมานานหลายล้านปี ในการอธิบายถึงกลิ่นหอมของอิฐและเซรามิคที่เกิดจากการเผา, การเกิดง้วนดินซึ่งมีคุณค่าทางอาหาร, และการเกิดขึ้นของพืชชน

เครือดิน มลภาวะเกิดขึ้นแล้ว กระบิดินก็เสื่อมคุณภาพไป ก็มีเครือดินเกิดขึ้นมาแทนที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ลักษณะคล้ายๆ กับผลมะพร้าว มันเกิดขึ้นมาจากดิน เคยจำได้ว่าลักษณะนี้ โบราณของไทยนะเขาเรียกดิน

เนื้อหาเกี่ยวกับเครือดินที่เกิดขึ้นจากมลภาวะและการเสื่อมคุณภาพของอาหารในแต่ละยุค โดยเฉพาะผลกระทบต่อผิวพรรณของมนุษย์ที่กินเครือดิน ขณะที่เครือดินนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเช่นการกินข้าวที่เริ่มเข้ามาแทนที่ น

21 ถ้าในช่วงนั้นมนุษย์ทั้งโลกเฉลี่ยแล้วอายุเกินคนละหนึ่งแสนปีนะ พระองค์ไม่มาเกิดหรอก เพราะถ้ามาเกิดขณะที่มนุษย์อายุเป็นแสนๆ เป็นล้านๆ ปีนั่น ไปบอกว่า นี่มนุษย์เอย! อีกหน่อยเจ้าจะต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องต

ในเนื้อหานี้กล่าวถึงสถานการณ์ที่พระพุทธเจ้าไม่มาเกิดในช่วงที่มนุษย์มีอายุเฉลี่ยเกินหนึ่งแสนปี หรืออายุสั้นเกินไป โดยมีการวิเคราะห์ว่าความเชื่อในธรรมะจะไม่เกิดขึ้นในเมื่อผู้คนไม่เข้าใจและไม่เคยประสบกับ

“ไอ้ตัวเล็ก...เอ็งเอาไม้สอยต้นมะเขือนี่ทีซี” มีทางเป็นไปได้ทีเดียว เพราะอย่างที่เล่าให้ฟัง ก็ขนาดต้นพริก เมื่อเด็กๆ หลวงพ่อยังเจอเลย สูงตั้งสามสี่วา ต้องใช้ไม้สอยเอา จะเก็บพริกนี่ยังต้องสอย นี่เก็บมาก

บทความนี้กล่าวถึงการลดลงของอายุเฉลี่ยของมนุษย์จนเหลือเพียง 10 ปีในอนาคต โดยมีผลกระทบในด้านความรุนแรงและความเข้าใจผิดในสังคม การฆ่ากันในครอบครัวและความแตกแยกในสังคม ซึ่งนำไปสู่การต้องออกไปใช้ชีวิตในป่า