ข้อความต้นฉบับในหน้า
ๆ
ต่าง ๆ อีกด้วย ข้อนี้ฉันใด จิตใจคนเราก็ฉันนั้น เมื่อจิตใจเศร้า
หมองขุ่นมัว เราก็จำเป็นต้องชำระให้บริสุทธิ์ ขืนปล่อยทิ้งไว้
อาสวกิเลสก็จะแผดเผาและกัดกร่อนจิตใจหนักขึ้น เสมือน
สนิมในเนื้อเหล็กฉะนั้น
ได้กล่าวไว้แล้วว่า สาเหตุของ “เชื้อพาล” ซึ่งพาให้คน
เราคิดชั่ว พูดชั่ว และทำชั่วทำบาปก็คือ ใจที่เศร้าหมอง
เนื่องจากถูกกิเลสห่อหุ้ม ใครก็ตามที่ก่อกรรมทำบาปไว้ เมื่อ
เกิดสํานึกผิดในการกระทำของตนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะ
สำนึกได้เอง หรือเป็นเพราะมีกัลยาณมิตรแนะนำตักเตือน ก็
จำเป็นต้องรีบชำระล้างความเศร้าหมองไปจากใจโดยเร็ว มิ
ฉะนั้นแล้วใจที่ยังไม่บริสุทธิ์หมดจดก็จะนำเรากลับไปทำบาปอีก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงชี้แนะเรื่องนี้ไว้ว่า
“บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี จึงห้ามจิตเสียจาก
บาป เพราะว่าเมื่อบุคคลทำความดีช้าอยู่ ใจจะยินดีในบาป”
ถ้ามือเปื้อน เราสามารถชำระล้างด้วยน้ำสะอาดได้ แต่
ใจที่เศร้าหมองเป็นบาปนั้น จะต้องชำระล้างด้วยบุญ
ขุ. ธ. ๒๕/๑๙/๓๐
๒๙๕