ข้อความต้นฉบับในหน้า
๙
กล้ามเนือตาหรือขมวดคิ้ว แล้วตั้งใจมัน วางอารมณ์สบาย
สร้างความรู้สึกให้พร้อมทั้งกายและใจว่า กำลังจะเข้าไปสู่
ภาวะแห่งความสงบสุขอย่างยิ่ง
4. นึกกำหนดนิมิต เป็น "ดวงแก้วกลมใส" ขนาด
เท่าแก้วตาดำใสบริสุทธิ์ ปราศจากรากศรีหรือรอยตำหนิใดๆ
ขาวใส เย็นตาเย็นใจดังประกายของดวงดาว ดวงแก้ว
กลมใสนี้เรียกว่า "บรรจรมิมิด" นักมายา นักเหมือน
ดวงแก้วนั้นมานิ่งสนิทอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด
นึกไปวาวๆ ไปอย่างนิ่มนวล เป็นพุทธานุสติว่า "สัมมา
อะระหัง" หรือค่อยๆ น้อมนึกดวงแก้วกลมใสให้ค่อยๆ
เคลื่อนไปสู่ศูนย์กลางกายตามแนวฐาน โดยเริ่มตั้งแต่
ฐานที่หนึ่งเป็นต้นไป น้อมนึกอย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ไป
พร้อมๆ กับคำบรรยา
องค์ เมื่อมีนิมิตดวงแก้วกลมใสปรากฏแล้ว ณ กลาง
กาย ให้วางอารมณ์สบายๆ กับนิมิตนั้น จนเหมือนกับ
ว่าดวงนิมิตเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ หากดวงนิมิตนั้น
อันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึกเสียใจ ให้วางอารมณ์สบาย
แล้วนิมิตนั้นขึ้นมาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อมีนิมิตนั้นไป
ปรากฏที่อื่น ที่มีใช้ศูนย์กลางกาย ให้ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้า
มาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการบังคับ และเมื่อมีนิมิตมา
หยุดสนิท ณ ศูนย์กลางกาย ให้วงสติลงไปยังจุด
ศูนย์กลางของดวงนิมิต ด้วยความรู้สึกคล้ายมีดวงดาว
ดวงเล็กๆ อีกดวงหนึ่ง ซ้อนอยู่ตรงกลางดวงนิมิตดวงเดิม