ข้อความต้นฉบับในหน้า
วัดปากน้ำ ภาษเจริญ ได้กล่าวยืนยันไว้ว่า บุญ บาป มีจริงๆ อยู่ในตัวของเรานี่เอง ดังนี้
"...บุญ เป็นดวงโสๆ ติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ...บาป เป็นดวงดำ ติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์เช่นกัน..."
แม้เราจะยังไม่เห็นบุญ แต่ก็สัมผัสกระแสบุญได้ เช่น เวลาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา บุญจะหลังไหลมาตามใจเรา ทำให้เราสบายใจ จิตใจผ่องใส ความรู้สึกเหล่านี้ คืออาการของบุญ ซึ่งเปรียบได้กับกระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็น แต่เวลาเปิดสวิตช์ก็จะมีกระแสไฟเข้าไปทำให้เครื่องไฟทำงานเกิดเป็นแสงสว่างในหลอดไฟ ความเย็นในตู้เย็น หรือความร้อนในเตารีดไฟฟ้า เป็นต้น
เรื่องกระแสบุญนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ในปฐมบุญญาสิ้นสุดว่า เวลาบุญเกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นสายธาร เช่นนั้นอารณแห่งบุญไหลไปยังผู้ทำบุญ ดังนี้
"เมื่อถึงบุริโภคีวร บินทขบุตร เสนาสนะ คิลานปัจจัยของทายกใด แล้วเข้าใจโตสมาธิ ท่ออารบบุญพคล ย่อมไหลไปสู่ทายก(ผู้บริจากทาน) นั้นประมาณมิได้ นำสุมาให้ ให้ผลอนันต์ มีสุขเป็นวิบาก ดูแลแม่น้ำทั้งหลายไหลลงสู่ทะเลนั่น"(มก. ๓๕/๑๙๘)
บุญญริยวัตถุ ๑๐
ทางมาแห่งบุญมีถึง ๑๐ ประการ เมื่อเราทำบุญอย่างหนึ่งอย่างใดใน ๑๐ ประการต่อไปนี้ บุญก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา