ข้อความต้นฉบับในหน้า
D M C ช่องนี้มีคำตอบ
ประเทสมีความวุ่นวาย มีความอดอยาก และมีศึกสงคราม พี่ชายของเตี้ยต่างถูกเกณฑ์ทหารไปออกศมแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย ส่วนเตี้ยขณะนั้นยังอยู่ในวัยรุ่นคะเนอง จึงตัดสินใจหนีความอยากสมรสนั้นเข้าไปเป็นทหารอาสาในกองทัพจีน จนกระทั่งวันหนึ่งได้มอบหมายให้เป็นทหารยามเฝ้าค่าย ช่วงเวลากลางดึกมีโมยชาวบ้านแอบปีนรั้วเข้ามาหยุดอยู่เสี่ยง เสียงยามอยู่เพียงผู้เดียวจึงตัดสินใจสิงขึ้นบนหัวโขนลานพวกนั้นหนีไปหมด แต่สิ่งที่ตามมาคือพวกทหารในยกนี้ตื่นนอนกันหมดเช่นกัน ทำให้ผู้งบคับกองพันอึ้งเสียงั้นทีโดนเตี้ย “โบย ๒๐ ที” ซึ่งการโบยบีบนุ่นแรงมาก คือให้เตียดเสื้อผ้าแล้วให้นอนคว่ำ ดีด้วยไม้พลวงขนาดใหญ่ คล้ายในคริปบันจิฉัน เมื่อถูกโบยไปเพียง ๕ ที เตี้ยก็เจ็บปวดจนสลบ จนกระทั่งหัวหน่วยหมายทหารของเตี้ยต้องอ้อนวอนขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษแทนเตี้ย เตี้ยก็ถูกสาดน้ำให้ตื่นแล้วโยนต่ออีก ๕ ที หมดอนสะดิไปอีกจากจุดนี้เองจึงทำให้เตียดตัดสินใจวางแผนหนีจากการเป็นทหารมาต่สู้ประเทศไทยในวัยขนะนั่น คือ ๒๐ ตัน ๆ โดยในระยะแรกได้เข้ามาพิทพลังของเตี้ยที่หลบหนีมา ก่อนและตั้งครอบครัวอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ที่ลำบากมีฐานะลำบากเช่นกัน ชีวิตของเตี้ยต้องลำบากใช้แรงงาน ทำงานโดยไม่เกี่ยง ตั้งแต่เป็นจับกังแบนข้าวสาร ต่อมก็ช่วยชีพชาวเขาแพทยายบางทีก็ขายผักหรือผลไม้ในตลาดสด อดทนสร้างเนื้อสร้างตัวจนพอเอาตัวรอดได้ จนกระทั่งอายุได้ ๒๗ ปี จึงมาพบกับคุณแม่ ซึ่งเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง
อยู่ในบุญ ธันวาคม ๒๕๔๖