ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทางลัด..ในการเข้าถึงธรรม
การฝึกสมาธิ จนมีสภาพใจรวมหยุดนิ่งนั้น อาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน เพราะกำลังใจรวมเป็นหนึ่งจึงได้ปฏิวนาน (เข้าถ้องดูปฏิมมรรว) ต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ไปตามลำดับขั้นก่อน ซึ่งเราเรียกขั้นตอนนั้นว่า “องค์แห่งสมาธิ” ซึ่งได้แก่
๑. วัดทก หมายถึง ความคิด หรืออื่นเพื่อสร้างจิตใจให้กับอารมณ์ เช่น การนึกดวงแก้ว
๒. วิจาร หมายถึง การพิจารณา การผูกจิตใจให้กับอารมณ์ โดยไม่ให้ความยินดียินร้าย เช่น การมองดวงแก้วที่สิงสิง ๆ
๓. ปิติ หมายถึง สภาพจิตที่มีความอิ่มเอิบอย่างเหลือเกิน
๔. สุข หมายถึง ความจำใจ ใจที่มีความสงบเงียบเย็น
๕. เอกก comments หมายถึง ความอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว แต่แท้จริงแล้ว หากได้ศึกษาให้ลึกลงไปจะพบว่าวิถีทางในการเข้าสู่งธรรม ซึ่งทำให้เราเข้าผ่านขั้นตอนของ “วิตก” กับ “วิจาร” ไปอย่างรวดเร็ว ดังเรื่องของ พระสัปทาสเถระ ที่บวชมนานถึง ๒๕ พรรษา แต่ว่าบรรลุธรรมสักที จึงทำให้ท่านทุกข์ใจจนต้องฆ่าตัวตาย ด้วยการจะเอามีดปาดคอเองแต่ในขณะนั้นท่านนึกถึงบุญที่ได้จากสิในขณะบวชมาตลอดชีวิต ซึ่งขณะนั้นก็พลันเกิดความกลัวแค้นในใจทั้งสิริ เพราะท่านสามารถรักษาได้อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ปราศจากมลทินใด ๆ และด้วยความดีอย่างเต็มที่เองจึงเกิด “สุข” และ “เอกกกดต” ซึ่งตามลำดับ จนทำให้จิตตกศูนย์ใจรวมเป็นหนึ่ง บรรลุอารหัตผลในขณะนั้นเอง
นี้คือ คุณประโยชน์อันสูงสุดในการนึกถึงบุญที่ตนเองเคยทำความดีมีจิตมุ่งมั่นในขณะนั้น แม้ท่านพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าสู่ธรรมได้สักที
ด้วยเหตุนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจึงมักจะสอนให้เรานั่งสมาธิ แล้วหมั่นนึกถึงบุญที่เราเคยทำในอดีตบ่อย ๆ โดยให้นึกถึงความปลื้มปีติให้ได้
เพราะความปลื้มปีติจะทำให้ใจเราดำผ่านขั้นตอนของวิกฤติ วิจาร ไปอย่างง่าย ๆ "
จากนั้นสุข เอกกกิตา คือ ตกศูนย์เข้าถึงองค์ของมรรค และเข้าสู่พระธรรมกายภายในได้ในที่สุดเอง...