การสวดมนต์กับความศรัทธาในพระพุทธศาสนา วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2558 หน้า 84
หน้าที่ 84 / 124

สรุปเนื้อหา

การสวดมนต์เป็นการสร้างความสบายใจและความศรัทธาที่มีมาตั้งแต่อดีต โดยเปลือกกระพี้อาจมีบทบาทเสริมที่แตกต่างกันในแต่ละสถานที่ หากสวดด้วยความศรัทธาแท้จริง จะได้รับพลังและอานุภาพที่มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อไปเยี่ยมคนเจ็บที่มักจะสวดพญามงคลสูตร เพื่อสร้างความคลายเครียดและเสริมความมั่นคงในพระรัตนตรัย แม้บางคนอาจสวดเพราะกลัว แต่ไม่แน่ใจว่าความศรัทธาจริงจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ บทบาทและอานุภาพของคาถายังขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้สวด แม้วัดต่างๆ จะมีการสวดที่แตกต่างกัน การทำพิธีกรรมตามความเชื่อก็มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ร่วมพิธีด้วย

หัวข้อประเด็น

-การสวดมนต์
-ความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
-อานุภาพของคาถา
-พญามงคลสูตร
-ความแตกต่างของพิธีกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ให้คนถือเพื่อความสบายใจ เป็นเปลือกกระพี้ เป็นส่วนเสริม คือเสริมความศรัทธาให้เต็มที่ขึ้น ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละที่ แต่ถ้าสาระสำคัญหรือแก่นยังคงเดิม ก็ว่าใช้ได้ ถ้าไม่ได้สวดมนต์ด้วยความศรัทธา แต่สวดเพราะความกลัว เช่น กลัวผี จะได้พูดคุณหรือป้องกันดูก็ศรัทธาได้หรือไม่? ถ้าไปเยี่ยมคนเจ็บก็จะสวดคาถาที่เรียกว่าพญามงคลสูตร ซึ่งฟังแล้วทำให้จิตใจเบาอาการป่วยก็คลาย ๆ ทราม บางตอนลงเป็นต้น ซึ่งอามากหลัง ๆ คนไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยถือว่าเป็นคาถาอาคม บางครั้งไม่ใกล้เกี่ยวกับบทสวดเสริมพระรัตนตรัยโดยตรง แต่ถ้าเป็นของที่ดีขืนในยุคหลัง คาถาที่คัดลิสส์จริง ๆ แล้ว จะต้องมาจากบทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีบทที่ไป อ๋องถึงคุณของพระรัตนตรัย ลวดแล้วอัญญภาพ แต่ถูนฤาจะเร่งมากน้อยแค่ไหน นั่นอยู่บ่วัวสุดจะมีศิลปินธ์แค่ไหน แล้วก็ความศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัยแค่ไหน ถ้าหากสวดแบบไม่รู้เอาไหนอิไหนด้าน อนุภาพก็ระดับหนึ่ง แต่อยากฟังด้วยความเลื่อมใสศรัทธาจริง ๆ ใจดีปั้นมันในพระรัตนตรัยจริง ๆ อาณภาพไม่มีประมาณ ทำไมบางวัดมีการสวดพรมานน้ำมนต์ มีสายสมุญั บางวัดไม่มี จะมีผลแตกต่างกันหรือไม่? แก่นของวัดมหามงคลจริง ๆ คือ สวดออกไปถูกต้องด้วยใจให้เลื่อมใสศรัทธามันคงส่วนพิธีกรรมอื่นที่มาประกอบ เช่น มีสายสมุญั ระโยงระยางเหนือศะหรือเป็นสายย้อยลงมา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More