ข้อความต้นฉบับในหน้า
ที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒
ทำให้ทุกนาทีที่ผ่านไปกลายเป็นภาพความประทับใจ
ไปอีกนานแสนนาน
ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินทางมาถึงวัดบ้านขุนแห่งนี้
ต่างอุทานด้วยความดีใจเมื่อมองเห็นอุโบสถทรง
ล้านนาโบราณงดงามสง่าอยู่เบื้องหน้าสีแดงตัดสีขาว
สว่างของหลังคาอุโบสถสะท้อนแสงแดดดูงามระยับ
โดดเด่นอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี จนกล่าวได้ว่า
ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ฝังรากหยั่งลึก
มาหลายอายุคน ได้ก่อเกิดพุทธศิลป์อันงามวิจิตร
ตระการตา ที่พาให้รู้สึกสงบลึกซึ้งอย่างยิ่ง
ตรงกึ่งกลางหลังคาโบสถ์แห่งนี้มี “สัตบริภัณฑ์
ทรงยอดแหลมสีทองอร่าม จำลองเครื่องหมายแห่ง
ขุนเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล ดุจ
ชี้ทางพระนิพพานด้วยปรารถนาก้าวพ้นสังสารวัฏ
ช่อฟ้าอ่อนช้อยป้านลมโค้งเว้าฉลุลายหริภุญชัย
ประดับหลังคาโบสถ์ซ้อนชั้นลดหลั่นกันลงมา ดั่ง
การประนมมือไหว้ด้วยความเคารพในพระรัตนตรัย
ชายคาทอดลงครอบตัววิหาร เปรียบดังอาภรณ์ของ
ชาวล้านนาผู้อ่อนน้อมและสงบงาม
เหนือสิ่งอื่นใด คือ องค์พระประธาน ที่ชาวบ้าน
เรียกว่า องค์หลวง ช่างดึงดูดสายตาผู้พบเห็น เพราะ
ตรงกึ่งกลางหลังคาโบสถ์
แห่งนี้มี “สัตบริภัณฑ์”
ทรงยอดแหลมสีทองอร่าม
จําลองเครื่องหมาย
แห่งขุนเขาพระสุเมรุ
ซึ่งเป็นศูนย์กลาง
แห่งจักรวาล
ดุจชี้ทางพระนิพพาน
ด้วยปรารถนา
ก้าวพ้นสังสารวัฏ