ข้อความต้นฉบับในหน้า
สุนทรพจน์ พระราชภาวนาวิสุทธิ์
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย
เจริญพร ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และแขก
ผู้มีเกียรติทุกท่าน
อาตมภาพ ในนามวัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และเหล่ากัลยาณมิตรผู้รักสันติสุข
จากนานาชาติทั่วโลก ขออนุโมทนาและขอขอบใจ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างยิ่ง ที่ ฯพณฯ
ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วมพิธีวันมาฆบูชา และแสดงสุนทรพจน์ที่มีความสำคัญในท่ามกลางมหาชน
ณ มหาธรรมกายเจดีย์แห่งนี้ และได้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านดาวเทียมไปยังผู้ชมผู้ฟังทั่วโลก
ประเทศไทยและประเทศศรีลังกานั้น มีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ทางด้านพระพุทธศาสนา ที่ทั้งสองประเทศได้เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมา ตั้งแต่อดีตจนถึงยุคปัจจุบัน
วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกายก็เป็นองค์กรหนึ่ง ที่ได้ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
มาอย่างต่อเนื่องกว่า ๔๐ ปี เพื่อที่จะสถาปนาสันติสุขอันไพบูลย์ให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลกด้วยสันติวิธี
ด้วยการยึดถือความสงบและเคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา
หรือเผ่าพันธุ์
วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกายก็เป็นองค์กรหนึ่ง
ที่ได้ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามา
อย่างต่อเนื่องกว่า ๔๐ ปี เพื่อที่จะสถาปนาสันติสุข
อันไพบูลย์ให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลกด้วยสันติวิธี
ดังนั้น การที่อาตมภาพ ตลอดจนหมู่คณะกัลยาณมิตร วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย
ได้ร่วมกันถวายพระธรรมกาย อันเป็นพระพุทธปฏิมากร เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ ประเทศศรีลังกา
จำนวน ๒๒๒ องค์นั้น นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางด้านพระพุทธศาสนาระหว่าง
สองประเทศแล้ว ด้วยเหตุผลอีกประการหนึ่ง คือ เป็นเพราะ ฯพณฯ ประธานาธิบดี ตลอดจน
ผู้บริหารประเทศในปัจจุบัน ได้แสดงออกซึ่งความเป็นพุทธศาสนิกชนที่น่านิยมนับถืออย่างยิ่ง
เพราะทราบว่า ได้จัดให้มีการแสดงธรรม ณ ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นประจำทุกเดือน โดยมี
ฯพณฯ ประธานาธิบดี และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมฟังธรรมและปฏิบัติธรรมอย่างน่าอนุโมทนา
และสมควรเป็นต้นบุญต้นแบบแห่งความเป็นนักปกครองอย่างน่าเลื่อมใสจึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า
พระพุทธศาสนาจะยังคงเจริญรุ่งเรือง และนำสันติสุขมาสู่สังคมมนุษยชาติไปอีกยาวนาน