ชีวิตและการต่อสู้ของหญิงสาวในครอบครัว วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 หน้า 94
หน้าที่ 94 / 120

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิต ทั้งการทำงานหนักเลี้ยงครอบครัว การเรียนรู้ที่จะดูแลเด็กน้อยในภาวะยากลำบาก แม้ว่าเธอจะมีอุปสรรคมากมาย แต่เธอก็พยายามยืนหยัดต่อสู้เพื่ออนาคตและครอบครัว ในระหว่างนี้ เธอได้เรียนรู้ความหมายของการเป็นแม่และการรักและดูแลคนรอบข้าง ขณะเดียวกัน ปัญหาภายในครอบครัว และความรักที่ไม่สมหวังก็ทำให้ชีวิตของเธอยิ่งซับซ้อนมากขึ้น แต่ด้วยกำลังใจและความตั้งใจ เธอก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น แม้จะเผชิญกับความทุกข์ที่ไม่หยุดหย่อน.

หัวข้อประเด็น

-ชีวิตประจำวัน
-การต่อสู้
-ความรักในครอบครัว
-การเรียนรู้
-ความยากลำบาก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๙๒ ...เมื่อลูกมาอยู่กับคุณอา ต้องหาบน้ำใส่ตุ่มวันละ ๑๐ กว่าตุ่ม อีกทั้งยังต้องทำ กับข้าว ซักผ้า เลี้ยงลูกๆ ของคุณอาด้วย หนังสือก็ไม่ได้เรียน ต่อมาคุณอาก็ให้ ลูกไปรับจ้างทํางานบ้านให้กับครอบครัวหนึ่ง เจ้าของบ้านเขาเห็นลูกเป็นคนขยัน เขาสงสาร จึงส่งเสริมให้เรียนหนังสือจนจบป.)... ทุกวันไม่เคยขาด ในต้นปี ๒๕๔๙ ลูกก็ได้รับข่าว จากคุณแม่ว่า ตาของแม่หายแล้ว หายเป็นปกติเลย ลูกดีใจมาก คุณแม่ชอบดาวธรรมมากดูทุกวัน ขณะนี้ท่านมีอายุ ๗๕ ปี บ่นว่า “กูไปทำงานหาเงินมาให้ใช้อย่างสบาย แต่ ทำไมไม่เลี้ยงดูลูกให้ดี” ต่อมาสามีน้องสาวก็ไม่ กลับไปทำงานที่สิงคโปร์อีกเลย แล้วเขาก็ทำตัวเสเพล เที่ยวดื่มเหล้าเมามาพาลอาละวาดน้องสาวของลูก เป็นประจำ และไปเป็นชู้กับภรรยาชาวบ้านจน น้องสาวจับได้ สุดท้ายก็หย่าร้างกันไปจนถึงทุกวันนี้ หลานสาว (ลูกของพี่สาว) เกิดมาได้ ๗ วัน ก็ป่วยเป็นโรคปอดบวมเกือบตาย แต่หมอก็รักษาไว้ทัน อายุได้ ๑ เดือน ก็เริ่มเป็นโรคหอบหืดเป็นมาจนโต ต้องหาหมอประจำตัว หากกะทันหันก็ต้องเข้า โรงพยาบาล อีกทั้งยังป่วยไข้อยู่บ่อยๆ ทำให้เป็น เด็กงอแง และมีร่างกายผ่ายผอมเหมือนเด็กขาด น้องสาวคนที่ ๔ เป็นคนสวยหน้าตาดี มีหนุ่มๆ ติดมากมาย แต่เธอก็ไปตกหลุมรักหนุ่มกาฬสินธุ์ แล้วหนีตามเขาไปอยู่ที่จังหวัดนั้น จนมีลูกผู้หญิง คน เธอจึงยอมกลับมาหาคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ก็อภัยให้ ทุกอย่าง ในปี ๒๕๓๗ สามีของเธอก็บินไปทำงาน ก่อสร้างที่ประเทศสิงคโปร์ ขณะนั้นลูกชายคนที่ ๒ ของเธอมีอายุได้ ๑๐ ขวบ สามีเธอไปทำงานที่ สิงคโปร์อยู่ ๒ ปี โดยไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเลย ได้ แต่ส่งเงินมาให้ครอบครัวน้องสาว เพราะเขาตั้งใจไป ทำงานหาเงินไว้ให้เธอเลี้ยงลูกทั้งสองให้ดี จนเมื่อปี ๒๕๓๙ ลูกชายคนที่ ๒ มีอายุได้ ๑๒ ปี เกิดมีความ รู้สึกว่าร้อน ร้อนมาก ต้องขอนอนแช่น้ำบ่อยๆ น้อง สาวของลูกก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก กลับด่าซ้ำว่า “จะ ตายก็ตายเถอะ บอกไม่รู้ความ นอนแช่น้ำอยู่ได้” ต่อมามีเพื่อนบ้านมาพบว่า ลูกชายของเธอสลบ จึง วันละ ๑๐๐ จบ ถึงเวลาจะนอน พอนอนกำลังเคลิ้ม พากันนำส่งโรงพยาบาล เข้าห้อง ICU ได้ ๑ อาทิตย์ หาหมอ สารอาหาร พี่สาวของลูก (แม่ของหลาน) ก็พาไป หาอาหารเสริมทั้งวิตามินมาให้เธอทาน แต่หลานก็ไม่ยอมทาน วันๆ เอาแต่นั่งร้องไห้ เมื่อโตขึ้นอายุได้ ๑๕ ปี เธอก็ชอบสวดมนต์ ไหว้พระ ชอบทำบุญใส่บาตรอยู่เป็นประจำ ในยาม ค่ำคืนหลานจะมานั่งสวดมนต์บทคาถาชินบัญชร เธอก็จะสั่นเหมือนไฟชอร์ตอยู่สัก ๕-๑๐ นาที อาการ ก็เสียชีวิต หมอบอกว่าป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกลงปอด นี้ก็จะหาย แล้วหลับไป เป็นอยู่อย่างนี้ตั้งแต่เริ่ม เมื่อสามีเธอทราบข่าวก็เสียใจมาก รีบบิน กลับมาร่วมงานศพลูกชาย พร้อมกับน้ำตานองหน้า อาการเป็นบางครั้ง บ่นพร่ำว่า “พ่อตาย กูก็ไม่เคยร้องไห้ถึงเพียงนี้ หัดสวด จนอายุได้ราว ๒๐ ปี จึงเลิกสวด แต่ก็ยังมี หลานเป็นคนชอบทำนายทายทักมาตั้งแต่เล็ก แต่ทำไมลูกตายถึงร้องไห้คร่ำครวญขนาดนี้” และก็ ตอนอยู่อนุบาลก็ชอบทายคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More