ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผมมาคิดทบทวนอยู่หลายครั้งจนแน่ใจว่า อาจเป็นวิธีการที่หลวงพ่อต้องการแนะนำและ
ฝึกบางอย่างให้แก่ผม
เคยได้ยินมาว่า หลวงพ่อท่านมักมีวิธีฝึกคนตามอุปนิสัย อย่างพี่ท่านหนึ่งมีนิสัย
หงุดหงิดง่าย ใจร้อนและมือหนัก ต่อมาหลวงพ่อได้ชวนให้พี่ท่านนั้นได้รับบุญจัดดอกไม้
หอมไปถวายพระประธานในโบสถ์
การจัดเรียงดอกไม้หอมใส่พานให้เป็นระเบียบ ซ้อนเป็นชั้นๆ สูงขึ้นไปโดยที่
ดอกไม้ไม่ช้ำ เป็นเรื่องของความละเอียดอ่อน ที่ต้องทำด้วยความใจเย็น อดทน ประณีต
และต้องเบามือเป็นที่สุด
แน่นอนว่าต่อมาอุปนิสัยของพี่ท่านนั้นเปลี่ยนไป เหมือนมองดอกไม้แห้งกับ
ดอกไม้สด เราสามารถมองเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนอย่างนั้นเลย
สำหรับผมก็คงเหมือนกับหลายๆ ท่านที่เวลาอยู่ต่อหน้าหลวงพ่อแล้วพูดไม่ออก
ความตื่นเต้นเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ผมปรับปรุงและพัฒนาฝึกการเรียบเรียง
ความคิด และการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล หลวงพ่อจึงเมตตาที่จะฝึกผมโดยวิธี
การถ่ายทอดผ่านการเขียน
เมื่อเห็นประโยชน์จากการจดบันทึก ผมจึงเริ่มทำอย่างจริงจัง
แล้วผมก็ค้นพบกับตัวเองว่า ช่วงเวลาที่เราได้จด ได้บันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงไป
ในสมุดส่วนตัวนั้น เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกช่วงหนึ่งของผม
ผมเคยอ่านพบในหนังสือว่า ความยากอย่างหนึ่งในการจดบันทึกนั่นคือการทำให้มัน
ต่อเนื่อง ความยากต่อมาคือ การเก็บรักษาให้อยู่กับเราไปนานๆ
สำหรับผมการจดบันทึกให้ต่อเนื่องหรือการเก็บรักษาให้คงอยู่แม้เป็นเรื่องยาก
หากเราสามารถเอาสิ่งที่บันทึกมาปรับใช้และพัฒนาฝึกฝนตัวเราให้ดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ยังมีเรื่องที่ยากกว่านั้น
ผมว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและยากกว่า
ความยากมันอยู่ที่เรากล้าพอที่จะเปิดใจยอมรับที่จะฝึกฝนตนให้ดีขึ้นกว่าเดิมไหม
และจะตั้งใจอดทนจนประสบความสำเร็จได้หรือเปล่า
ถ้าการจดบันทึกอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องยาก การแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองเป็นเรื่อง
ยากกว่า ผมว่าเบื้องหลังสิ่งที่ยากนี้ ยังมีสิ่งที่ยากกว่าซ่อนอยู่อีก
นั่นคือการที่จะมีครูบาอาจารย์สักคนหนึ่งพร่ำสอนให้รักการทำดี เคี่ยวเข็ญให้รัก
บุญกุศล พร่ำสอนให้ได้รู้จักวิชาชีวิตอยู่ทุกค่ำคืน และสอนอย่างมีศิลปะอีกด้วย
บางครั้งบอกสอนตรงๆ บางครั้งสอนโดยการทำเป็นตัวอย่างให้ดู บางที่สอนผ่าน
เรื่องเล่า ผ่านบทเพลง ผ่านบทกลอน สอนผ่านกำแพงอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้
เข้าไปสู่จิตใจ
และที่สอนมาทั้งหมดก็เพื่อมุ่งจูงให้ทุกคนได้รู้จักและเข้าถึงที่พึ่งภายใน