ข้อความต้นฉบับในหน้า
66
จากการนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอดังกล่าว ทำให้พยาบาลวิชาชีพ
อย่างเธอทราบว่า สมาธิ คือยาวิเศษของชีวิต ยารักษาโรคบางชนิด
สามารถรักษาความเจ็บป่วยได้เพียงบางโรคเท่านั้น ไม่มียาขนานใดเลย
ที่จะรักษาโรคได้ทุกโรค แต่ยาที่มีชื่อว่า “สมาธิ” กลับเป็นยาวิเศษที่
รักษาโรคได้ครอบจักรวาล เยียวยาได้ทั้งอาการเจ็บไข้ทางกายและทาง
ใจของผู้คนได้ด้วย
99
ความตายมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน คำถามเกิดขึ้น ดิฉันก็จะภาวนา 'สัมมา อะระหัง” และแผ่เมตตา
ไม่สิ้นสุดและจบลงโดยไม่มีคำตอบ จนกลายเป็น
ความรู้สึกปลงสังเวช “ไม่มีใครหนีพ้นความตายไป
ได้"
และแล้วในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗
ดวงตะวันแห่งคำตอบก็ฉายแสงแจ่มจ้า ความสงสัย
ต่างๆ ของเธอก็เดินทางมาถึงจุดจบ
“เมื่อดิฉันได้รับจดหมายจากวัดภาวนาจอร์เจีย
เกี่ยวกับการติดตั้งจานดาวธรรมจึงสนใจมาก ขอ
ให้มาติดตั้งทันที เพราะสมัยก่อน ดิฉันเคยมา
วัดพระธรรมกายครั้งหนึ่ง ตอนยังเป็นสภาหลังคาจาก
อยู่ คำสอนของหลวงพ่อเข้าใจง่าย ช่วยทำให้คำถาม
ต่างๆ ที่ค้างคาใจมานานหายไป ทุกวันนี้ได้คำตอบ
ที่กระจ่างแจ้งแล้วว่า “คนเราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี
แล้วก็เปลี่ยนวิธีนั่งสมาธิจากเดิมที่เคยกำหนด
ลมหายใจ มาเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การกำหนดใจ
ให้หยุดนิ่ง ๆ ที่ศูนย์กลางกาย วิธีนี้ทำให้หยุดนิ่งได้
เร็วขึ้น และรู้สึกสบาย ไม่ปวดเมื่อย
ดิฉันมักใช้เวลาในวันหยุดงาน นั่งสมาธิ ๒ ครั้ง
ครั้งละประมาณ ๑ ชั่วโมง ทำเช่นนี้เสมอ ติดต่อกัน
มานานเป็นระยะเวลาถึง 6 ปี จนคืนหนึ่งในเดือน
มกราคม ๒๕๕๑ เมื่อตื่นขึ้นมานั่งสมาธิเป็นปกติ
ตอนที่ ๒ หลังจากบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อย
แล้ว ขณะที่กำหนดดวงแก้วอยู่ที่ศูนย์กลางกาย
ตอนนั้นดิฉันรู้สึกสบายและนิ่ง ภายในตัวมีแต่
ความสว่างจ้า นุ่มนวล เมื่อมองนิ่งๆ ไปที่แสงสว่าง
แสงนั้นก็รวมตัวกันเป็นท่อใสเล็กๆ แล้วก็รู้สึกว่า
ตัวเองไหลลงไปในท่อเล็กอย่างรวดเร็วแต่นุ่มนวล
เมื่อตัวดิฉันไหลหลุดจากท่อ ใจก็หยุดกึกทันที แต่
นิ่งและนุ่มนวลเหมือนเดิมแล้วก็มีความรู้สึกว่าตัวเอง
เป็นอากาศ มีจุดแสงเล็กๆ นับประมาณไม่ได้อยู่
เต็มไปหมด เมื่อมองลงไปท่ามกลางจุดแสงเหล่านั้น
ดิฉันก็เห็นองค์พระแก้วใสผุดซ้อนกันอยู่ ถึงแม้จะ
ชิดกันมากแต่ก็สามารถเห็นลายเส้นที่ซ้อนกันอยู่ได้
ทุกด้าน เหมือนภาพสามมิติ จึงเข้าใจอย่างถ่องแท้
กับคำว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส มีความ
สุขมากๆ
แล้วเธอก็ได้ดื่มความสุขที่แท้จริงอันไม่มี
ขอบเขต เหมือนหยดน้ำที่หยดลงในมหาสมุทร
ก่อเกิดเป็นคลื่นเล็กๆ ที่ไม่มีฝั่งให้กระทบ น้ำตา
แห่งความปลื้มปีติก็ค่อยๆ ไหลออกมา ด้วยระลึก
ถึงพระคุณอันไม่มีประมาณขององค์พระสัมมา
สัมพุทธเจ้า และมหาปูชนียาจารย์ ช่วงเวลานั้นเธอ
เองรู้สึกว่า เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้เวลาจริง
จะผ่านไปตั้ง ๒ ชั่วโมงแล้วก็ตาม จากประสบการณ์
ในวันนั้นจึงทำให้เธอนั่งสมาธิมากขึ้นและบ่อยขึ้น
พยายามฝึกวางใจอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา