ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยุคแรก เมื่อครั้งพุทธกาลเมืองอังคครัชรี ซึ่งถือว่าเป็ นที่หลักการศาสนาและ การปกครองพุทธทัศนาณาในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ใน ด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา ทรงพระราชนิพนธ์ในด้าน พุทธศาสนา
ภาพจิตรกรรมฝาผนังฝั่งทิศเหนือ เป็นภาพพุทธศิลป์หอวอเขียน อักษรธรรมบนนกระดาษชนวน ตามคำบอกของพระอาจารย์ว่า “เอ สันตะ สันตะจิตตา ติสะระณะสะระณะ”
ร้อยกว่าปีต่อมาเป็น ยุคที่สอง ที่ภาพบานและการฉายมรินในด้านข้ามสู่่านนคร เมื่อพระเจ้าศิลปะกษัตริย์แห่งนครพิงค์ เชียงใหม่ มีพระราชประสงค์จะครอบครองแผ่นเกลือ ซึ่งทรงยกทัพมาดึงสามารถ ผนวกน่านเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาได้สำเร็จ รัชสมัยของพระองค์คือเป็น ยุคทองของอาณาจักรล้านนา ที่รุ่งเรืองทั้ง การขยายอาณาเขตไปครอบครองหัวเมือง
น้อยใหญ่จำนวนมาก อีกทั้งพระพุทธศาสนา และการศึกษาดั้งเดิมก็เจริญ รุ่งเรืองอย่างสูงสุด ดั่งจะเห็นได้จากการที่ พระองค์โปรดเกล้า ให้สร้างนานพระไตรปิฎก มาแล้วจ าลงในสนามด้วยอักษรธรรมแจกจ่าย ไปทั่วอาณาเขตที่รงปกครอง จึงส่งผลให้น่าน ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเมืองขึ้นของอาณาจักร ล้านนา รับความรุ่งเรืองด้านพระพุทธศาสนาและการศึกษา มาบาเข้าไปด้วย
คราวต่อมาเป็น ยุคที่สาม ที่ภาษา บาลีและการฉายมรินในด้านขำสู้่านนคร เมื่อพระเจ้าศิลปะกษัตริย์แห่งนครพิงค์ เชียงใหม่ มีพระราชประสงค์จะครอบครองแผ่นเกลือ ซึ่งทรงยกทัพมาดึงสามารถ ผนวกน่านเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาได้สำเร็จ รัชสมัยของพระองค์คือเป็น ยุคทองของอาณาจักรล้านนา ที่รุ่งเรืองทั้ง การขยายอาณาเขตไปครอบครองหัวเมือง