ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลายมายเหล่านั้น ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์แตกต่างกัน เช่น บางคัมภีร์อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับเยเมนพระปฏิรูธรรม หรือบางคัมภีร์อาจมีวัตถุประสงค์ที่จะจากขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตำราพระปรี่อ เป็นต้น ซึ่งเนื้อหา ตัวอย่าง ตลอดจนภาษาที่ใช้ รวมทั้งที่สร้างขึ้นนั้น ก็อาจมีความแตกต่างกันออกไปตามภูมิสาสตร์และกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งข้อคิดเห็นเหล่านี้ยังครอบคลุมไปถึงคัมภีร์ในกลุ่มคัมภีร์ "อัมภาย" ด้วยเช่นกัน ที่ทะท้อนความเชื่อ พิธีกรรม หลักการทำสมาธิ และแนวปฎิบัติทางพระพุทธศาสนาทั้งของไทยและในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย ทั้้งนี้ข้อคิดเห็นหรือคำถามที่ผู้วิจัยได้ตั้งไว้ในหัวข้อการเสวนาเรื่องนี้ก็มีความน่าสนใจในหลาย ๆ ประเด็น เช่น การค้นพบคัมภีร์ในกลุ่มคัมภีร์อัมภายบอกอะไรเรา ? คัมภีร์ในกลุ่มคัมภีร์อัมภายใช้ทำอะไร ? ทำไมคัมภีร์ในกลุ่มคัมภีร์อัมภายถึงไม่เป็นที่รู้จักกันในภาคกลางในยุคปัจจุบัน ? ซึ่งข้อคิดเห็นเหล่านี้ส่วนแต่เป็นข้อสังเกตที่ไม่เพียงแต่ สาธารณะที่เป็นลูกหลานของมหาปุรีนายาจารย์ในวิชาชาญธรรมภายในเท่านั้น ที่ให้ความสนใจ แท่เหล่าพุทธศาสนิกชนที่สนใจไม่รู้ทั่วโลกต่างก็พยายามละหาคำตอบเหล่านี้กันทั่วไป
หัวข้อการเสวนาเรื่อง "มุมมองของคำว่า ธรรมกาย ตามรอยรำราวระหว่างยุคพุทธศาสดังเดิม กับพุทธศาสตรมหายาน" โดยพระวิชัย เตชกุโล นักวิจัยของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) (Doctor Philosophie at the University of Oslo, Norway) ซึ่งมีประเด็นที่แหลมคมอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำและความหมายของคำว่า "ธรรมกาย" ซึ่งจะให้คำตอบที่ชัดเจนอันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคำว่า "ธรรมกาย" กับพุทธศาสนาตั้งเดิมและพุทธศาสนามหายาน เรื่องราวและปัญห эмоนีเป็นมูลเหตุการเกิด "รอยร้าว" ของยุคสมัยที่เรียกว่ายุคพุทธศาสดังเดิมกับพุทธศาสนามหายาน ฯลฯ ซึ่งคำถามหรือประเด็นเหล่านี้มีได้เป็นสิ่งที่เราสามารถหาฟังหรือถามได้ทั่วไป หากแต่เป็นประเด็นที่มีความเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นประเด็นที่มีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง ซึ่งเราทุกคนที่เป็นชาวพุทธวจะมีโอกาสได้นึกได้ไม่น้อย
หัวข้อการเสวนาของนักวิจัยอาวุโสทั้ง 2 ท่าน คือ ดร.กิจชัย เอื้อเกษม และ ดร.ชนิดา จันทราศิล" (บ.ค.๗) ที่เราจะได้รับฟังนั้นจึงมีคุณค่าอย่างยิ่ง โดยในส่วนของ ดร.กิจชัย เอื้อเกษม (Doctor of Philosophy at the University of Sydney) นั้น ท่านจะมาให้เราเป็น