ข้อความต้นฉบับในหน้า
มนุษย์วนเวียนเป็นทุกข์ในเรื่องเหล่านี้นั่นเอง ท่านเรียกว่า สังสารวิุ สังสารวิุไม่มีเบื้องต้น ไม่มีทามกลาง ไม่มีเบื้องปลาย ถ้าเราไม่ระวังกุศลธรรมให้ดี จะไม่มีที่จบกัน มีแต่เพิ่มทุษ แต่ถ้าเราระวังให้ดี เราก็จะมาถงรอด ทางรอดอยู่ตรง ถอดไม่คริป คือ กำลังดีเสพที่องค์บังคับให้เราทำชั่วออกจากใจให้หมดสิ้นด้วยการปฏิบัติ มรรคมีองค์ ๔ แล้วจะต้องปฏิบัติเนาเทาใด นั่นคือยืนยั่วว่า เราปฏิบัติครังครัดและปฏิบัติตถูต้องและครบถ้วนแค่ไหน ปฏิบัติต่อเนื่องกันขนาดไหน ถ้าปฏิบัติต้องและครบถ้วนแล้วเรือออกจากทุกข์ ถ้าผิดจากนี้ไม่มีทางอีกแล้ว นี้คือธรรมชาติจริง ๆ ของชีวิตและโลก ซึ่งพระสัมมาสัมพุทเจ้าทรงเรียกความรู้ทั้งหมดว่า อิริสงค์ ๔ คือ ความจริงของโลกและชีวิต ๔ ประการ
๑. ชีวิตนี้เป็น ทุกข์ ทุกวันเราก็แก่ ก็เจ็บ ก็ตาย ทุกวันเราก็หิว เราก็ระหาย แล้วถ้าทำผิดทำพลาดอะไร เรโดนปรับโทษหนักต่อไปนี้ เพราะเราเป็นนักโทษประหาร
๒. ทุกทั่งหลายที่เกิดมีเรามีม มี สมุทัย หรือดับเหตุ คือ กิลาสังลิออยู่ในใจ เหมือนไม่คริปที่คอยควบคุมการคิด พูด ทำของเราเอาไว้ ทำให้เราอยากชนิดไม่รู้จบ ที่เรียกว่าหายอยากหรือดันหา
๓. ทุกทั่งหลายดับได้ด้วยการกำจัดกิเลสให้สิ้น นั่นคือ ปิโส
๔. มรรค มังค์ ๔ เป็นวิธีการเดียวที่สามารถกำจัดกิเลสได้ พอปฏิบัติเมื่อไร ก็กลายเป็นละชั่ว แล้วเริ่มทำความดี แล้วทำให้ใจใส่ไปตามลำดับ ๆ
พระสัมมาสัมพุทเจ้าจึงตรัสว่า อริยสัจทั้ง ๔ นี้ เป็นความจริงอันประเสริฐ อริยสัจ จะว่า ประเสริฐ สัจจะ แปลว่า ความจริง ทั้ง ๔ ประการนี้เป็นความจริงอันประเสริฐ ประเสริญกว่าที่ว่า ถ้าใครปฏิบัติตามแล้วหมดกิเลสได้ หมดทุกข์ได้ และทำให้คน ๆ นั้นตั้งใจปฏิบัติกลายจากคนธรรมดาเป็นพระอริยเจ้า เป็นผู้ประเสริฐได้
ถ้าเข้าใจธรรมชาตของโลกและชีวิตของอย่างนี้แล้ว เราจะตระหนักว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องศึกษาให้จงลงไปว่า ดี-ชั่วนี้ตัดสินอย่างไร ต้องศึกษาให้ชัด ๆ พลลาดไม่ได้ ถ้าพลาดก็ถูกเพิ่มโทษ ทำมาหากินผิดพลาด ผิดกฎหมาย ก็โดนเพิ่มโทษ ถูกยั่วยุอะไรด้วยอำนาจก็สลายแล้วไปมา เดี๋ยวก็ถูกเพิ่มโทษ กุศโลเกษกรรมไม่มีอภัยหรือหลดยอมอะไรให้ทั้งนั้น
เมื่อจะก้าวสู่ภาคปฏิบัติของการละชั่วทำดีแล้ว ต้องทำความเข้าใจงายุกแห่งกรรมให้ชัดทุกคนทำกรรมทั้งดี-ชั่วได้ทันทีที่เกิด และทำกรรมได้ ๑ ทาง คือ ทางกาย วาจา และใจ Because เหตุนี้นุกแห่งกรรมจึงริเริ่มบงับใช้ทันทีที่เราเกิด
ดังนั้น งานเร่งด่วนคือ ต้องสอนให้ลูกอุ้มความดี ฝึกให้ลูกคุ้มกันกับความดี จะได้หวานความชั่วทันทีที่เกิด ถ้าฝึกได้ช้า ก็จะเอาเข้าวิ่งไปบาก แล้วได้บากมาก ทุกข์ก็เกิดแต่ต้นมากและนิสัยก็เสื่อม
การฝึกให้คุ้มกับความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความนุ่มนวล ความสุขา ความตรงเวลา เป็นกำเนิดของความดี ป้องกันไม่ให้โกรธ ทำให้อารมณ์ดีตลอดเวลา แล้วยังประหยัด