ข้อความต้นฉบับในหน้า
ของพระภิษุณีคุณภิษณะ ซึ่งน่าจะเปลามาจากภาษาสันสกฤต ส่วนในฉบับภาษาบาลีนั้นไม่ปรากฏผู้แต่งและยุคสมัยของการแต่ง ในประเทศพม่าอาจอ้างอิงเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎก คือเป็นส่วนหนึ่งของทุทธุกในพระสูตรต้นปิฎก แต่ในประเทศไทยและศรีลังกานี้เป็นเพียงคำรียบลักษณะเดียวกัน ฉบับบาลีฉบับนี้เนื้อที่ยืดออกไปจากฉบับภาษาจีนอยู่มาก โดยมีเพียง ๓ บทแรกจาก ๗ บท ที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน ตามข้อความในของพระภิษุณี มัน เขา ผู้ศึกษาปริยัติเปรียบเทียบฉบับภาษาจีนและฉบับบาลีอย่างละเอียด พบว่านบบาลาจีน่าน่าจะเป็นฉบับที่เก่าแก่และมีเนื้อหาใกล้เคียงกับต้นฉบับบาลีสันสกฤต หรือปรากฏมากกว่าว่าภาษาบาลี ส่วนฉบับบาลีฉบับนี้จะมีส่วนที่แต่งเพิ่มขึ้นมาจากต้นฉบับบ้าง แต่ส่วนที่คล้ายคลึงของทั้ง ๒ ฉบับนั้น ใช้เห็นว่าทั้ง ๒ ฉบับนั้นจะมีฉบับเดียวกัน นอกจากนี้นิวิกฤติการยังสนับสนุนฐานอีกว่า คัมภีร์มินินทปัญหาน่าจะมีมาจากนิคายสุรวาสติวาท ซึ่งเป็นที่นิยมมักถือกันในเอกเขียงกลางในยุคสมัยดังกล่าว ผู้เขียนของกาววะวันตกด้านพุทธศาสนาสนับสนุนฉบับว่าน่าจะมีปัญหาแต่งขึ้นไปบนดับญอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือลิ้มและดินแดนเอกเขียงกลาง ซึ่งยอดเคยเป็นเมืองพุทธที่รุ่งเรืองดังมีพระพุทธรูปเก่าและซากปรักหักพังของพุทธสถานกระจัดกระจายอยู่มากมาย ส่วนช่วงเวลาที่แต่งหรือรวมคัมภีร์นี้ยังไม่มีข้อสรุปในแน่นอนชัดเจน นักวิชาการบางท่านคาดเดาว่าน่าจะแต่งช่วงเริ่มต้นของคริสต์ศาสนาหรือวารา ๆ พุทธศตวรรษที่ ๕ แต่บางท่านให้ความเห็นว่ามากเกินกว่านั้น อาจจะแต่งขึ้นในสมัยพระเจ้าเมนมันเดอร์กษัตริย์ยาตรีที่ปกครองดินแดนแถบนี้ประมาณ ๒ ศตวรรษก่อนคริสตศตวรรษที่ ๓ ตัวละครของเรื่องหรือพระยามินนี้เป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่จริงในประวัติศาสตร์ พระองค์เป็นกษัตริย์ยาวกรีกที่ปกครองดินแดนอินเดียตอนเหนือ มีการค้นพบเหรียญบราณที่บูพระนามพระองค์ในนากยากรีกว่า เมนมันเดอร์ ส่วนในภาษาบาลี พระนามนี้ถูกแปลเป็นมินินะ เพื่อให้เข้าบลักษณะของภาษา
ตามข้อมูลที่ท่านดิน มิน เขา ได้ชี้แจงในการศึกษา ท่านพบว่าเนื้อหาของมินินทปัญหาในฉบับบาลีมีความยาวกว่าฉบับภาษาจีนมาก สามารถแบ่งได้เป็น ๗ ส่วนโดยมีเนื้อหาตรงกันใน ๓ ส่วนแรก หรือรวบ ๆ หน้าแรกถึงหน้าที่ ๙ ของฉบับสมบูรณ์ ฉบับบา ฉบับอีก ๕ ส่วนไม่ปรากฏในฉบับบาลีฉบับนี้ ซึ่งน่าเป็นส่วนที่เพิ่มเติมมาหลังโดยโบราณาจารย์ในสายรวาทขาวศรีลังการา รายละเอียดปลี่ยนอยุ่ของเนื้อเรื่องก็มีความแตกต่างกันพอสมควร แต้ว่าโครงเรื่องและตัวละครมีความคล้ายคลึงกัน ท่านดิน มิน เขา ได้สรุปความเหมือนและความแตกต่างของเนื้อเรื่องในระดับชาติของพระนาคเสนและพระยามินท์ไว้ดังนี้
๑. ในฉบับบาลี ในช่วงเริ่มต้นของเรื่อง สามารถและพระภิษุณีได้ตั้งความปรารถนาและต่อมาทั้งสองได้มาเกิดเป็นพระยามินินและพระนาคเสนตามความปรารถนาที่ตั้งไว้ ในฉบับภาษาจีน เนื้อเรื่องกล่าวว่า พระมหาชนผู้เคยเป็นช้างในดินแดนและพราหมณ์ผู้เคยเป็นฤาษี