ข้อความต้นฉบับในหน้า
วันมาฆบูชามหาสมาคม
เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๓
วันนี้ เป็นวันมาฆบูชามหาสมาคม
เป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งของโลก และเป็น
วันประวัติศาสตร์ของการเริ่มต้นเผยแผ่
พระพุทธศาสนาอย่างมีระบบระเบียบ
แบบแผน เมื่อราว ๒,๕๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา
ได้มีการประชุมใหญ่ของพระอรหันต์
๑,๒๕๐ รูป ในวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
เราเรียกการประชุมครั้งนั้นว่า "จาตุ
รงคสันนิบาต” ซึ่งพระอรหันตสาวกได้มา
ประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
ทางวาจา แต่ต่างก็รู้กันด้วยใจของพระ
อรหันต์ผู้หมดกิเลส ทรงอภิญญา ท่านสามารถรับรู้
ได้ด้วยญาณทัสสนะของพระธรรมกายอรหัตผล และ
พระขีณาสพทุกรูปล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือผู้ที่
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานการอุปสมบทให้
ด้วยพระองค์เอง
ในการประชุมวาระพิเศษครั้งนั้น พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน และทรงแสดงโอวาท
ปาติโมกข์ให้กับพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ซึ่งเป็น
หลักธรรมคำสอนแม่บทในพระพุทธศาสนา อันจะ
นำพาชีวิตของผู้ที่ได้นำคำสอนนี้ไปประพฤติปฏิบัติ
ให้บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต กระทั่งทำให้
สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้
พระพุทธองค์ทรงวางรากฐานในการเผยแผ่
พระพุทธศาสนา โดยได้ตรัสถึงอุดมการณ์ หลักการ
และวิธีการในการเผยแผ่เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
อุดมการณ์คือความตั้งใจอันสูงส่งที่ต้องยึดมั่นเอาไว้ในใจ
เพื่อให้การเผยแผ่บรรลุถึงจุดหมายอย่างมีประสิทธิผล
สูงสุด ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องมีขันติ ดังพระดำรัสที่ว่า
“ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา” ความอดทน อดกลั้น
เป็นตบะธรรมอย่างยิ่ง ต้องอดทนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
คือนิพพานเนื่องจากท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า “นิพพานัง
อยู่
กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๙
ปะระมัง วะทันติ พุทธา” พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัส
ว่าพระนิพพานเป็นเยี่ยม และในระหว่างที่มุ่งไปสู่
นิพพานต้องไม่เบียดเบียนทำร้ายใคร ดังพุทธพจน์
ที่ว่า “นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะมาตี สะมะโณ โหติ
ปะรัง วิเหฐะยันโต” บรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น
เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าสมณะเลย “เอตัง พุทธา
นะสาสะนัง” นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ซึ่งการที่จะประพฤติปฏิบัติตามคำสอน จน
กระทั่งทำพระนิพพานให้แจ้งได้นั้น จะต้องมีความ
อดทนเป็นพื้นฐานตั้งแต่ต้องอดทนต่อความยากลำบาก
อดทนต่อการกระทบกระทั่ง อดทนต่ออำนาจกิเลส
ที่มาเย้ายวน และอดทนในการฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง
ความอดทนเป็นคุณธรรมเบื้องต้นที่จะต้องสั่งสม
อบรมให้มาก เพื่อก้าวข้ามพ้นวัฏฏะไปสู่ฝั่งแห่งพระ
นิพพาน เพราะท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพาน
เป็นเยี่ยม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ทรง
สรรเสริญว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยมที่สุด และเป็นเป้า
หมายอันสูงสุดของทุกชีวิต ซึ่งการที่จะบรรลุพระ
นิพพานได้นั้น จะต้องเจริญสมาธิภาวนาให้เข้าถึง
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะภายใน ด้วย
ยุ ป ๑๔