ข้อความต้นฉบับในหน้า
A
40
มนุษย์เอาเนื้อมาปรุงอาหาร พ่อครัวก็แอบย่องไป
คอยฆ่าคนที่กำลังเผลอ แล้วตัดเอาแต่เนื้อล่ำ ๆ
ไปปรุงอาหาร ทิ้งกระดูกเอาไว้ ชาวเมืองรู้ว่ามี
ฆาตกรฆ่าหั่นศพ ก็พากันไปร้องทุกข์ต่อพระราชา
แต่พระราชาก็ไม่ทรงเป็นธุระในคดีนี้ จึงไปขอ
ความช่วยเหลือจากท่านกาฬหัตถีเสนาบดี ท่าน
เสนาบดีทำการสืบคดีใช้เวลาไม่กี่วันก็จับพ่อครัวได้
เมื่อพ่อครัวซัดทอดว่าผู้บงการในการฆ่าคือพระราชา
จึงพากันมาทูลถามพระราชา พระราชาทรง
ยอมรับโดยไม่สะทกสะท้าน ชาวเมืองได้ยินแล้วถึง
กับขนลุกชูชัน หวาดเสียวไปตามๆ กัน เพราะนึก
ไม่ถึงว่าฆาตกรกินเนื้อมนุษย์ จะเป็นพระราชาของ
ตัวเอง เสนาบดีได้กราบทูลขอให้ทรงเลิกเสวยเนื้อ
มนุษย์เด็ดขาด มิเช่นนั้น ชาวเมืองจะเนรเทศ
พระองค์ออกจากแว่นแคว้น
ฝ่ายพระราชาก็ทรงยืนกรานว่า “สมบัติ
เหล่านี้มิได้เป็นที่รักของเรายิ่งไปกว่าเนื้อมนุษย์
เราไปอยู่ป่าก็ได้” ทรงขอดาบหนึ่งเล่ม พ่อครัว
หนึ่งคน และหม้ออีกหนึ่งใบ เมื่อได้ทุกอย่างครบแล้ว
ก็มุ่งหน้าเข้าป่าใหญ่ อาศัยอยู่ที่ใต้ต้นไทรแห่งหนึ่ง
คอยดักฆ่ามนุษย์ที่ผ่านมาบริเวณนั้น แล้วนำมาให้
พ่อครัวทำเป็นอาหาร ตั้งแต่นั้นมา พระเจ้าพรหมทัต
ก็ได้รับฉายานามว่าจอมโจรโปริสาท หรือยอด
มนุษย์กินคน
โปรสาทมีอานุภาพมาก สามารถกระโดด
ได้สูง ๑๘ ศอก ถึงแม้จะอยู่ป่าตามลำพัง สัตว์
ร้ายก็เกรงกลัวต่อเดชานุภาพของโปริสาท เขา
สามารถจับพระราชา ๑๐๐ พระองค์ได้ภายใน 7 วัน
เพื่อนำมาบวงสรวงเทวดาที่ต้นไทรใหญ่ เนื่องจาก
เคยให้สัญญาว่าถ้าหากแผลหายเพราะถูกหนามตะ
เคียนทิ่มตำภายใน ๗ วัน ก็จะนำพระราชา ๑๐๐
พระองค์จากทั่วชมพูทวีปมาฆ่าแล้วเอาโลหิตใน
นําคอรดต้นไทร
ตอนหลังเทวดาซึ่งสิงอยู่ต้นไทรเห็นว่า
* * ๑๘