ข้อความต้นฉบับในหน้า
คาดฝันมาก่อน จึงตกใจมาก รีบวิ่งกระหืดกระหอบ
มาบอกท่านเศรษฐีว่า “ของทุกอย่างในโรงทานได้หาย
ไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ จะทำอย่างไรดี ท่านเศรษฐี”
เศรษฐีเมื่อรับฟังแล้วก็มิได้หวั่นไหว กลับสั่งให้ภรรยา
เอาสิ่งของในบ้านออกมาเพื่อให้ทานต่อ ฝ่ายภรรยา
เศรษฐีรีบไปค้นหาทันที กลับพบแต่ความว่างเปล่า จึง
รายงานสามีว่า "สิ่งของที่จะนำออกบริจาคทาน ไม่มี
อะไรเหลืออยู่เลย ฉันไม่พบเห็นอะไรสักอย่าง ไม่รู้ว่า
สมบัติของเราหายไปได้อย่างไร” ท่านเศรษฐีสั่งให้ไป
เอาสมบัติในเรือนคลังอีก แต่ก็ไม่พบอะไรเลย
เศรษฐีบอกกับภรรยาว่า “นางผู้เจริญ แม้
เหตุการณ์จะคับขันอย่างนี้หรือยิ่งกว่านี้ เราก็จะ
ไม่หยุดหรือย่อหย่อนในการให้ทาน เพราะทานเป็น
สิ่งสำคัญและเป็นชีวิตจิตใจของเรา เธอลองไปตรวจ
ดูให้ละเอียดอีกทีหนึ่ง เผื่อว่าจะพบอะไรบ้างแม้
สักเล็กน้อยก็ยังดี” บังเอิญวันนั้นเอง คนหาบหญ้า
ของท่านเศรษฐีได้ทิ้งเคียวและไม้คานพร้อมกับเชือก
มัดหญ้า ภรรยาเศรษฐีไปเห็นเข้าจึงหยิบมาให้เศรษฐี
ธรรมดาใจของพระโพธิสัตว์นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่า
คนธรรมดามาก ความคิด คำพูด และการกระทำ
จึงเกินกว่าคนธรรมดาซึ่งเมื่อเกิดปัญหาแทนที่ท่านจะ
หยุดการให้ทาน ท่านกลับคิดว่า “ในชีวิตนี้ไม่เคยคิด
เลยว่าจะต้องมาเกี่ยวหญ้าขาย แต่ว่าวันนี้ เราจะหา
ทรัพย์ด้วยวิธีนี้เพื่อให้ทาน จะได้เป็นบุญติดตามตัว
เราไปทุกภพทุกชาติ” เมื่อคิดได้อย่างนี้ ก็เดินออก
ไปนอกเมือง แล้วนำหญ้าที่เกี่ยวได้สองฟอนไปขาย
ได้ราคา ๒ มาสก หนึ่งมาสกเอาไว้ให้ทาน อีกหนึ่ง
มาสกเก็บไว้ซื้ออาหารให้กับตนและภรรยา