ข้อความต้นฉบับในหน้า
๙๓
...ปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจการฝึกสมาธิ
มากขึ้นๆ ทุกที จนถึงขนาดนิตยสารไทม์
แมกกาซีน เอามาพาดหัวเลย บอกว่า
พระพุทธศาสนา เป็นแนวโน้มใหม่ของ
อเมริกัน เป็นนิวเทรนด์ เอาขึ้นหน้าปกเลย
แล้วเนื้อ
เนื้อหาก็บอกว่ามีคนอเมริกันมาฝึก
สมาธิกันในปัจจุบันนี้ เป็นหลักสิบๆ ล้านคน
ทีเดียว...
สามารถฝึกสมาธิได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนศาสนา
นับถือศาสนาไหนก็นับถือต่อไป แต่ว่าเขารู้ว่าสมาธิดี
มาฝึกแล้วใจเขาสงบ ทำให้เขาสบายใจ สามารถ
ทำการงานได้ดี ชีวิตครอบครัวก็ดีขึ้น มนุษยสัมพันธ์
ดีขึ้น เขาก็เลยมาฝึกกันปากต่อปากต่อๆ กันไป มี
ศูนย์สอนสมาธิเกิดขึ้นเป็นพันเป็นหมื่นแห่ง แล้วมี
แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เฉพาะอเมริกาประเทศ
เดียว แม้ทางยุโรป ยิ่งประเทศที่พัฒนาแล้ว สังคม
มีความเร่งรัดมากขึ้นเท่าไร คนยิ่งสนใจเรื่องการ
ฝึกสมาธิ เห็นความจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น นี่คือ
ความดีสากลที่ทุกคนสามารถทำได้
ฉะนั้นทุกศาสนามารณรงค์กันดีไหมว่ามาฝึก
สมาธิกันเถอะ ตัวเองนับถืออะไรก็เอาสิ่งนั้นมาเป็น
นิมิต มาเป็นเครื่องหมายในการทำสมาธิเบื้องต้นได้
คริสต์ศาสนิกชนอาจจะนึกเป็นไม้กางเขนอยู่นิ่งๆ
ที่จุดที่สุดของลมที่กลางท้องตัวเองก็ได้ ถ้าหาก
เป็นพี่น้องชาวอิสลาม ชาวมุสลิมอาจจะนึกเป็น
พระจันทร์เต็มดวงหรือพระจันทร์เสี้ยวก็แล้วแต่
อยู่ที่กลางท้องตัวเองก็ได้ ใครถนัดอย่างไหนนึก
อย่างนั้น หรือจะเอาสิ่งของทั่วๆ ไป เช่น ดวงแก้ว
กลมๆ ใสๆ หรือว่าสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยแล้วนึกได้ง่าย
เช่น พระจันทร์ก็ตาม หยดน้ำ หยาดน้ำก็ตาม อะไร
ก็ได้ที่ตัวเองถนัด แล้วก็ทำไปเลย ที่นึกแล้วตัวเอง
สบายใจนั่นแหละ ทำเถอะ ขอเพียงแต่ให้ใจสงบนิ่ง
เท่านั้นเอง แล้วเมื่อนั้นเราจะพบคำตอบว่า จุดร่วม
ที่แท้จริงของมวลมนุษยชาติทั้งปวงอยู่ตรงไหน
กระแสความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง การ
แบ่งเขาแบ่งเราจะหมดไปโดยปริยายเริ่มปฏิบัติเมื่อไร
ความสงบเริ่มเกิดขึ้นเมื่อไร ใจจะนิ่ง ความจริงที่
ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวของทุกๆ คนจะเริ่มเปิดเผย
ขึ้นมา แล้วเมื่อนั้นมนุษยชาติทั้งปวงจะหลอมรวม
เป็นหนึ่ง ความแตกต่างทั้งหลายจะมลายหายไป
ทุกคนมีความรู้สึกว่า ทั้งโลกนี้เหมือนเป็นพี่น้อง
ท้องเดียวกันจริงๆ แสวงจุดร่วม สมานจุดต่าง จะ
เกิดขึ้นได้ด้วยการสร้างความดีสากลอย่างนี้
เจริญพร