ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๘ ( ความเป็นอยู่และการปกครอง
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ
เกิดในครรภ์ หรือประเภทงูเทพเจ้า
จะมีอายุประมาณ ๑๐๐ - ๕๐๐ ปี
พวกกำเนิดแบบอัณฑชะ เกิด
ในไข่ เป็นงูสามัญ จะมีอายุ 90 ปี
บ้าง ๒๐ ปีบ้าง บีบ้าง
๓๐
การแปลงกายเป็นมนุษย์
พวกเกิดแบบโอปปาติกะ
สามารถแปลงกายได้ทั้งขณะอยู่
บนบกและอยู่ในน้ำ
พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ ซึ่งเกิดใน วิมานในภพบาดาล
เมืองบาดาล แปลงกายได้เฉพาะขณะอยู่ใน
เมืองบาดาล ถ้าหากออกพื้นเมืองบาดาลก็จะ ทรายเงิน ทรายทอง ทรายแก้ว ตามกำลัง
กลายร่างเป็นนาคเหมือนเดิม
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ และอัณฑชะ
ล้วนแปลงกายไม่ได้ เพราะบุญน้อย ฤทธิ์ก็น้อย
ตาม จึงอยู่ในสภาวะของงูตลอดไป
อาหารของพญานาค
เป็นทองคำ พื้นรอบนอกวิมานจะเป็น
บุญของเจ้าของวิมาน ภายในวิมานจะมีคลัง
เก็บสมบัติ ทั้งที่เป็นหีบแก้วแหวนเงินทอง
และรัตนชาติ บางส่วนก็เป็นสมบัติโบราณ ที่
ตนเองมีหน้าที่เก็บรักษา เช่น พระพุทธรูป
โบราณที่จมลงไปในดิน หรือสิ่งก่อสร้าง
สำคัญของวัดวาอารามที่ปรักหักพัง หรือ
จะกินปลาใหญ่เป็นอาหาร
พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ และโอปปา
ติกะ จะกินอาหารทิพย์ที่เกิดจากบุญภายใน
วิมานตนเองใต้ภพบาดาล
มีเรื่องเล่าในพระไตรปิฎก เกี่ยวกับอดีต
ชาติของพระรัฐปาล” ซึ่งคัดย่อเฉพาะเนื้อหา
ที่เกี่ยวข้องกับพญานาคว่า มีพระดาบสองค์
หนึ่งได้เห็นสมบัติอันอลังการของพญานาค ก็
กลับไปเล่าให้โยมอุปัฏฐากฟัง โยมอุปัฏฐาก
ก็เชื่อพระดาบสนั้น จึงปรารถนาสมบัติพญา
พวกกำเนิดแบบอัณฑชะ หรืองูทั่ว ๆ ไป
จะกินพวกกบเขียดปลาเล็กๆ เป็นอาหาร
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ หรืองูเทพเจ้า
เทวรูปต่างๆ
เอกนิบาต อังคุตรนิกาย เล่ม ๓๒ หนา ๓๙๖