ข้อความต้นฉบับในหน้า
๔๘ ( คำบอกเล่าเรื่องพญานาคจากพระเถระผู้ทรงคุณในอดีต
พญานาค
อยากให้ถึงวันออกพรรษาเร็วๆ ข้าพเจ้า
จะได้ดูบั้งไฟพญานาค จะได้เห็นพญานาค
ทั้งสองนั้นอีก เพราะชาวบ้านแถบบ้านเดื่อ
คุ้มวัดอุทุมพร ได้ยืนยันกับข้าพเจ้าว่า
ยังมาให้เห็นทุกปี ที่หน้าวัดอุทุมพร ที่ซึ่ง
ข้าพเจ้ากำลังนั่งชมสายน้ำ ชมฟ้า ทบทวน
ความหลังอันประทับใจ อยู่ในบรรยากาศที่
แสนจะสดชื่นรื่นรมย์อยู่ในขณะนี้
ไม่น่าเชื่อว่า ข้าพเจ้าจะนั่งอยู่ได้นาน
ขนาดนี้ โดยไม่รู้สึกง่วงหรือเพลีย นั่งอยู่คน
เดียวตั้งแต่พระจันทร์ขึ้น จนพระจันทร์กำลัง
จะถูกแสงของตะวันยามรุ่งอรุณขับให้เลือน
หายไป สายหมอกบางๆ โรยตัวลงปกคลุมไป
เจื้อยแจ้ว ตีปีกพรึบพรับ กลิ่นข้าวเหนียวนึ่ง
โชยมาเตะจมูก จนต้องกลืนน้ำลาย กลิ่นไก่
ย่างและส้มตำหอมฉุยอยู่ข้างๆ ตัว อ้าวจะ
ให้กินกันแต่เช้าเลยหรือนี่ ข้าพเจ้าถามไปงั้น
แหละ เด็กสาวลูกจาใจยิ้มให้ข้าพเจ้า ตอบ
เบาๆ ว่า ให้คุณไปใส่บาตรพระที่วัดอุทุมพรคะ
เตรียมอาหารใส่ถาดไว้หลายอย่าง มีซุปขนุน
ที่คุณชอบด้วย ข้าพเจ้าต้องกลืนน้ำลายอีก
ครั้ง
เมื่อไปถึงวัด มีชาวบ้านหลายคนมาถึง
ก่อนแล้ว วันนี้เป็นวันพระ จึงมีชาวบ้านมา
รวมตัวทำบุญที่วัดมาก ถ้าเป็นวันธรรมดา
ก็จะใส่บาตรหน้าบ้านของตนเอง ทุกคน
ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายข้าพเจ้าอย่างยินดีที่
ได้พบกันอีก และดีใจที่ได้ทราบจากจ่าใจว่า
วันออกพรรษาปีนี้ ข้าพเจ้าจะนำผ้าป่ามาทอด
และพาเพื่อนๆ มาดูพญานาคที่นี่อีก พวกเขา
พากันพูดยืนยันว่า พญานาคมาให้เห็นทุกปี
จำนวนคนที่มาดูบั้งไฟพญานาคที่หน้าวัดนี้
จึงมีเพิ่มขึ้นทุกปี ด้วยความหวังว่าจะได้เห็น
ตัวพญานาค จริงๆ กลางแม่น้ำโขง ตอนนี้มี
ผู้เข้ามาชมเป็นเรือนหมื่นแล้ว
ข้าพเจ้านัดหมายเรื่องการทอดผ้าป่า
กับมัคนายก และกรรมการวัดเสร็จเรียบร้อย
แล้ว ก็มอบภาระการจัดที่พักสำหรับเพื่อนๆ
ซึ่งจะเดินทางมาร่วมชมบั้งไฟพญานาค
ทั่วบริเวณ ทุกชีวิตถูกปลุกให้ตื่นจากนิทรา ที่หน้าวัดนี้อีกประมาณ ๓๐ คน ไว้ให้จ่าใจ
นกกาบินออกจากรวงรังเพื่อหาอาหาร ไก่ขัน
จัดการ