กฎแห่งกรรม: บุญและบาป หลวงพ่อตอบปัญหา เรื่อง กฎแห่งกรรม หน้า 66
หน้าที่ 66 / 110

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงวิธีการที่กรรมดีช่วยลดหรือจางกรรมชั่ว โดยใช้หลักการเปรียบเทียบระหว่างการทำบุญและการทำบาป ซึ่งกรรมดีและกรรมชั่วนั้นมีผลตามมาในลักษณะเปรียบได้กับดอกเบี้ยทบต้น การทำดีจะนำมาซึ่งความสุขและความร่มเย็น ขณะเดียวกันกรรมที่เคยทำไม่ว่าจะดีหรือชั่วต่างก็มีผลตามมาในภายหลัง พิจารณากรณีพระโมคคัลลานะซึ่งถึงแม้จะมีบุญสูงแต่ยังต้องชดใช้กรรมในอดีตอยู่

หัวข้อประเด็น

-บุญและบาป
-กรรมดีและกรรมชั่ว
-ผลของการกระทำ
-เรื่องราวของพระโมคคัลลานะ
-การทำบุญและการชดใช้กรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กฎแห่งกรรม ๓๔. บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป หลวงพ่อเคยสอนว่าทำบุญมากเข้า กรรมชั่วจะค่อยๆ จางไป แล้วเปรียบเทียบเรื่องน้ำกับเกลือ หนูฟังแล้วเข้าใจว่า ทำกรรมดีมากเข้า กรรมชั่วจะตามไม่ทัน เพราะกรรม ดีมีมากกว่า แล้วได้ฟังเรื่องของพระโมคคัลลานะที่ถูก โจรฆ่าตาย เพราะกรรมตามมาสนอง สงสัยว่าทำไม คนที่มีบุญสูงมากเช่นนี้ จึงยังต้องชดใช้กรรมที่เคยทำ มาคะ ? ธรรมดากรรมชั่วที่เราทำไว้ ถึงเวลากรรมนั้นก็ตามให้ผลเป็น ความเดือดร้อน ทำนองเดียวกัน กรรมดีที่เราทำไว้ ถึงเวลากรรมดีก็ ตามให้ผลเป็นความร่มเย็นเป็นสุข และการให้ผลก็อยู่ในลักษณะดอกเบี้ย ทบต้นด้วย เหมือนอย่างเราเอาข้าวเปลือกเมล็ดหนึ่งมาปลูก ปลายปี ก็ได้ข้าวกอเบ้อเร่อ ได้รวงข้าว ไม่รู้กี่รวงต่อกี่รวง ถ้าเอาหญ้าคาสัก เมล็ดมาปลูก ปลายปีหญ้าก็งามได้เมล็ดเป็นกอบเลย ดอกเบี้ยมันทบ ต้นอย่างนี้ การกระทำใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าฝ่ายบุญฝ่ายบาป เมื่อทำแล้ว ไม่ไร้ผล และยังตามให้ผลไปอีกนานทีเดียว ในลักษณะต่างฝ่ายต่าง ให้ เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสไว้ว่า “ขึ้นชื่อว่าความ ชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า” ทำแต่ที่ดีๆ เข้าไว้ แล้วจะรอดตัว พระโมคคัลลานะท่านเคยทำร้ายทุบตีพ่อแม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ ที่มีพระคุณมาก เมื่อภพชาติในอดีต จึงเป็นกรรมหนัก เพราะฉะนั้น ภพชาติสุดท้าย ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นพระอรหันต์แล้ว บาปกรรมนั้นก็ ยังตามท่านอยู่ แต่ว่าเมื่อท่านเข้าพระนิพพานแล้วไม่ต้องเกิดอีก บาป พระภาวนาวิริยคุณ 66 (เผด็จ ทั ต ต ชีโว)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More