ข้อความต้นฉบับในหน้า
กฎแห่งกรรม
๕๒. ไฟล้างโลก
เมื่อเกิดไฟล้างโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายย่อมไม่อาจหนีไฟได้ พวก
เหล่านั้นย่อมจะถูกเผาผลาญหมดสิ้นไป ถือเป็นการสิ้น
ภพสิ้นชาติ หยุดการเวียนว่ายตายเกิด ใช่ไหมครับ ?
ไม่ใช่ เรื่องนี้มีกล่าวอธิบายไว้ในอัคคัญญสูตร ว่า พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสเล่าเรื่องความเป็นมาของโลก และการแตก
ทำลายของโลก ซึ่งอาจกล่าวสรุปเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการเกิดของ
สัตว์โลกไว้ว่า โลกของเรานี้พอใกล้จะถึงคราวสิ้นกัป หรือเวลาที่โลก
จะแตกทำลายกลายเป็นหมอกเพลิง พวกที่พอมีบุญอยู่บ้างจะได้
คิดถึงเรื่องบาปบุญ เช่น มนุษย์ แม้แต่คนที่ถือศีลไม่ค่อยได้ พอรู้ว่า
จะสิ้นกัป ไฟบรรลัยกัลป์จะมาล้างโลก ก็เริ่มได้คิดว่าคราวนี้ตายแน่ๆ
ก็จะตั้งใจรักษาศีล ครั้นตายไปก็ได้เป็นเทวดา ส่วนพวกที่ตั้งใจนั่ง
สมาธิด้วยก็ได้ไปเป็นพรหม
บางพวกไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรมแล้วยังทำบาป เวลาตายก็ตกนรก
พอถึงคราวไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก นรกขุมต่างๆ จะถูกเผาไปด้วย แต่
สัตว์นรกจะถูกลมบรรลัยกัลป์หอบไปติดอยู่ที่โลกอื่น กลายเป็นสัตว์
นรกของโลกอื่นไป เหมือนนักโทษย้ายคุก พอสิ้นเวรจากสัตว์นรกก็ไป
เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานในโลกนั้น
เพราะฉะนั้น ที่รัฐบาลพยายามสงวนพันธุ์สัตว์ป่า เพราะ
กลัวสัตว์จะสูญพันธุ์นั้น ในแง่ความเป็นจริง ถึงไม่สงวนสัตว์ก็ไม่หมด
แม้ช่วงหนึ่งสัตว์ป่าสัตว์บ้านอาจจะหมด แต่พอถึงคราวไฟบรรลัยกัลป์
ล้างโลกอื่น สัตว์นรกหลายๆ ประเภทจะถูกลมหอบมาติดอยู่กับโลกเรา
พอถึงเวลาสัตว์นรกก็เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ทำให้มีสัตว์อีกหลายอย่าง
พระภาวนาวิริยคุณ 90 (เผด็จ ทัตตชีโว)