ความคิดที่เผาไหม้และความสงสัยในพระอรหันต์ จนข้ามภพ รวยข้ามชาติ หน้า 20
หน้าที่ 20 / 26

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาพูดถึงความรู้สึกเศร้าโศกของพระรูปหนึ่งที่รู้สึกผิดเพราะความอิจฉาและสงสัยในพระอรหันต์ ทำให้เขาคิดมากเกี่ยวกับความผิดพลาดในชีวิต ทั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงผลของความหลงผิดและความคิดอันไม่ดีที่สามารถนำไปสู่ความเศร้าสร้อยได้ และการต่อสู้กับอารมณ์เพื่อไม่ให้เสียหายทางจิตใจ เนื้อหายังเสนอสถานการณ์ของพระที่ต้องเผชิญกับความจริงบางประการในชีวิต การค้นหาความสงบในตัวเองและทำความเข้าใจความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนับเป็นความสำคัญ

หัวข้อประเด็น

-ความคิดที่เกี่ยวกับพระอรหันต์
-การเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิด
-ผลกระทบของอารมณ์และการคิด
-การต่อสู้กับความอิจฉา
-การค้นหาความสงบในจิตใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ดั่งนั้น เมื่ออย่างเขาวันใหม่ พระกฤษฏิรูปตนดีดขึ้นแล้ว แตกตื่นน่าจะเคารพให้เขียนตามปกติ ทนกลับใช้คำสรรเสริญ เคารพ แล้วเดินไปที่จุดของพระที่วางใหม่ เอาเส้นประดูบาบจา จากนั้นจึงเอาขวดเดินไปบานของคิหละคำ น้ำต้นคำพระนี้เอามา คะยันถูกถามถึงพระที่มาใหม่ต่อว่า "อาตมาตรียังมีเกินแล้ว เคารพก็ดีแล้ว ไม่เห็นเขาดีแล้วก็สงสัยเมื่อนานคงจะฉินเกินไป เลยกลับเพลินไม่ยอมลูกจากที่ผ่านมา พระอย่างนี้โยมยังจะล้มเลิกเลยอยู่ดีกว่า หรือ ครูบาไม่ให้โต้ตอบอะไร เมื่อออกวิบาขา * ที่รูปอย่างดีให้ทำฉันแล้ว ก็อึดใจจึงบอกว่าว่า คงบ่ตายแล้ววัดก็คือแล้วอาจจะแจ้งบ่อตราบไปบั้งแล้วองค์ด้วยเครื่องหอมจงแทน ลักษณะบาใสเต็มแล้วบอกให้ท่าน พร้อมกับกล่าวว่า "พระคุณเจ้า พระเกษมดีไหมจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทาง ขอพระคุณเจ้าโปรดนำข้าวรานนี้ไปเผาเท่าที่จะตรงต่อง (* ข้าวปายมาก คือ ข้าวชนิดหนึ่งที่งิ่วอีลานน้ำและน้ำตาล ) พระรูปเดียวมันใจลืมอธิบายตามกันบัว ระหว่างทางก็คิดคอดว่า "ถ้าพระบุ้นได้น้ำขาวปายสี่แสนร้อนแล้ว ก็อย่าห่วงเลยว่าจะไปจากที่นี่""" ต่อให้ดูกระซากถาดตัวก็หามอไม่อาจไปเป็น นเราต้องให้มันได้ลิ้มสมัชชานเป็นอันขาด จะทำอย่างไรดี..." "ถ้าประยุหนได้เงินขาวปายสี่เหลบอีกาดว่านแล้วก็สอยอนั้นแล้ว ก็อยากหวังเลยว่าจะไปจากที่นี่" “ถ้าทรายขาวให้ชาวบ้าน ชาวบ้านก็ต้องสงสัย ถ้าหากน้ำ น้ำน้ำในข้าวก็คล่อตึ้นมา ถ้าท่านดิน พวกนกพวกกะทั้วก็จะมารุมกิน เป็นที่ผิดสังเกต เราจะถึงที่ไหนกันแนอ...” คนเราพอจะทำผิดก็ร้าย ก็อดวางแผนสับช้อนอย่างดี ขณะทีล่างเดินคีอยู่ในนั้น ก็เห็นกองไฟของหนึ่งที่ชาวบ้านตั้งสูงไว้ จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า "ได้ทราเร พวกเอาข้าวนี้เอาไฟไหมด" คิดแล้วจึงเข้าไปบอกขาในไฟ แล้วคุยหัวกันจนมิด ไฟในลูกโชนเผาขาวปายหมดไป เมื่อข้าวในหมดแล้วจึงเดินกลับวิ่งลับลับไป เมื่อพระรูปนี้เดินกลับจนถึงวัดแล้ว ได้แจ้งไปที่จิตพระมาระมา จะดูของเป็นอย่างไรบ้าง ท่านคอยๆ เปิดประตูมองเข้าไป แต่ปรากฏว่า พระรูปนี้ไม่อวลเสียแล้ว... ท่านลดใจความคิดชื่นมาว่า "ทายละ หรือพระรูปนี้นั้นเป็นพระอรหันต์จงใจเจ้า เลยหนีสียแล้ว” พระชื่อฉายบุนนั้นรู้สึกเขาอ่อน แทบจะจับขึ้นมาทันที ท่านจะพิจารณาว่า "นี่เพราะความเห็นแก่กัน ความอิจฉาริษยาของเราแท้ๆ เราทำกรรมหนักเสียแล้ว ไม่แนเลย” พระรูปนั้นได้แต่พร่ำรำพันด้วยความเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และนึกถึงเมื่อวันนั้นเป็นต้นมา ความโศกเศร้ายิ่งทับทวีทมหนหัวใจมาเป็นอันกินอันถอน ไม่แสนใจอะไรทั้งนั้น ท่านได้แต่งเหม่อคลอปล่อยให้ความคิดที่มาไปแล้ว ก็ดรอความรู้สึกของท่านหนักขึ้นๆ ท่านไม่สนใจแม้แต่ร่างกายเนื้อตัว ปล่อยให้รำบากรมผมเผาเป็นกระเซ็ง ผ่านจมาทำให้ไม่เรียบร้อย ดูแล้วเหมือนเปรอะเปื้อนรสภาย จากความทุกข์ทั้งมากมายไม่เสื่อมคลายเอง ไม่นานท่านก็รับภาพ ด้วยแรงบาดบ่ที่ท่านทำลากลับของพระอรหันต์ในครั้งนั้น ทำให้ท่านครนเกรมหาไม้ห้อยหลายเสนี เมื่อพ้นวรรณาแลว ไดโบเก็บเป็นยืนอยู่ถึง ๕๐ ชาติ คนที่เกิดเป็นมวลนี้เรื่ออยางหนึ่งคือ เมื่อชาติเกิดเป็นมนุษย์เป็นคนใจหยาบ มักโกรธ เจ้ากรรมนีไมไ่ร่อย่างทีเรียกว่า คนใจหยาบ นั่นแหละ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More