ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดลอดเวลานี้เป็นยังกั้นนั้น ท่านได้กินอาหารอร่อยอยู่คนเดียวก่อนตาย
ของท่านนั้นพอเด็กกินใหม่ที่เขานำทิ้งไว้ เมื่อพ้นเวลาการเป็นยักษ์แล้ว ก็ไปอาศัยสู้อยู่ที่ ๔๐ ชาติ
ทุกครั้งจึงเป็นสู้อยู่ข้างนอก หรือต้องมีเขี้ยวไม่เคยได้กินเลย
ยกน้ำนั้นสุขท่าฟังตายกันนั่นและจะกินตื่นนั่นหนอ ของท่านนั้นแย่งกว่าเดน คืบเป็นอาชารึที่เขาสำรวกลังไว้
เมื่อพ้นเวลาจากการเป็นสู้อยู่ ก็มาเกิดเป็นคน ได้ในครอบครัวของคนยากจนรวบครอบครัวนี้ไว้แน่นกว่า มีชื่อว่า“มิตตะพิณทุก”
ตั้งแต่วันที่เขตแตะพิณทุกก็ติด พ่อแช่งอาณาจักรแล้ว ก็ยิ่งกายลงไปอีก ถึงขนาดไม่มีอิเอาจริงใจ เมื่อเห็นว่าหลบปัญญาอยู่บ้าง จึงจำใจจึงให้ไล่ล่อไปในเวลาชีวิต
มิตตะพิณทุกจะรัชนีเรืองร้อนไปจนกระทั่งเมืองพาราณสี พอเวลานั้นเขามีอำนาจการศึกษาแก่เด็กยากจน
มิตตะพิณทุก ก็ได้รับทุนกับเขาขาด แต่เมื่อรัฐบาลแล้วกลับไม่ใดลงใจเรียน เที่ยวหาเรื่องซักด่อยกับเด็กอื่นๆ อยู่ไม่เว้นแต่วัน
วันที่หนึ่ง มิตตะพิณทุกก็หนีไปเที่ยวไกลถึงหมู่บ้านชายแดนแล้วไม่ยอมกลับมาเรียนอีก
แต่ปรับจ้างทำงานแลกข้าวกินไว้จนหนึ่งปี จากนั้นก็ได้หญิงจากในหมู่บ้านนั้นเป็นภรรยา จนมีบุตรด้วยกัน ๒ คน
กอดๆ อยากๆ ไม่ค่อยมีก็ชาวบ้านสงสารจะอาจตายกันทั้งครอบครัว จึงได้อนงค์นองหนึ่งให้เขา
คือเป็นคนส่งข่าวในหมู่บ้าน
สมุยนั้นเขาส่งข่าวตามด้วยการรับฟังเรื่องจากพ่อค้าหรือคนเดินทาง
เมื่่อรู้เรื่องอะไรใครโปรย่างได้ให้ประชุมใหญ่ในหมู่บ้านทราบ แต่ไม่รู้ว่านายมิตตะพิณทุกจะส่งข่าวแบบไหน
ทำเอาชาวบ้านถูกกวางราษฎรถึง ๙ ครั้ง เกิดไฟไหม้บ้าน ๗ ครั้ง บ่อมน้ำพุ ๙ ครั้ง จนชาวบ้านขวนเสียไปหมด
ซึ่งเรื่องท่านนั่นไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้านมาก่อนเลย
ชาวบ้านหวาดหลายสุดที่จะนั่งต่อไป จึงลงดับไปเขาออกไป ระหว่างที่เดินทางร่อนหมู่บ้านมานั้น
ภรรยาและลูกของเขาได้เสียชีวิตลง
มิตตะพิณทุกจะรังไปนั่งก็เรือแห่งหนึ่งชื่อ คัมพิระ บังอุ้งนิ่งนั่งจะมีการออกเรือเดินทะเลพอดี
เขาจึงไปสมัครทำงานในเรื่องด้วย เมือ่อื่นนอกจากเจ็บไปได้ ๒ วัน ก็เลยอยู่กับชั้นเสียนอย่าง ยงกันโครมลูกไว้
ทั้งๆที่ลงแมนเป็นปกติ ทั้งยังอึไม่ได้นอนในโครก ทุกคนพยายามหาสามพี่เป็นการใหญ่แต่ไม่พออะไร
เรือก็แบนไปไม่สามารถเมื่อใดเกินในคราวก็ กลับอวยกันปล่อยออมาเป็นทุกข์
ท่าถึงจึงปล่อยให้เขาเป็นอย่างนั้น นอกจากไปขายไม่ทันเขาแล้ว
เสบียงหมดเมื่อไรจะพากันออเต่าลงเรือเดินทะเลอย่างแน่น
เมื่ออาเลเกตุทั่ว ๆ ไปไม่พบ ชาวเรือทั้งหลายจึงคิดว่าน่าจะมีคนกลาดตีดในเรืออันนี้เป็นแน่น
จึงตกลงกันฉันฉลากาเหตุการณ์นั้น ปรากฏวัติดีตะพิณทุกได้ จับได้แล้ว แต่เพื่อแก่แน่จึงให้จับใหม่อีก จับถึง ๗ ครั้ง
มิตตะพิณทุกก็ไดฉลากากลาในก็ถึง ๗ ครั้ง ชาวเรือจึงได้ช่วยกันจับปล่อยออกไป
ขณะก็ตกออกแน่นั่น ผลกรรมที่เขาเคยทำในอดีตชาติก็ตามทัน ทำให้เขาได้พบกับเทพีรดา ๔ นาง
ซึ่งอยู่ในวิมานแก้ว แต่นี้พิณรดา ๔ นางนี้เป็นพวก เวมนักปรม คือเป็นคู่มีมวลมน
เปรตพวกนี้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ได้ทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่วกันไป เลยต้องมาเป็นทั้งเทพิและเป็นปรสลับกันไป
มิตตะพิณทุกได้เลยสุขอยู่กับเทพีรดา ๔ นางอยู่ ๗ วัน เมื่อครู ๗ วันแล้ว
เทพีรดาเหล่านี้ก็ต้องไปสอยทุกข์เป็นปรครอีก ๗ วัน สลับกันไปตามรรมของตน นางจึงบอกให้เขาอยู่ในวมนาแก่นั้น
แต่มิตตะพิณทุกไม่เชื่อฟัง กลับลอยแพตนเองต่อไปนทะฯส จนได้พบเทพิรดา ฯ นางได้นามเนั้นมั่น