การพัฒนาสมาธิในเด็ก : หน้า 62/71

ซึ่งการทำกิจกรรมเหมือนการเรียน ส่วนการนั่งสมาธิเหมือนเลิกเรียน เมื่อปิดตาลงเป็นการเรียนรู้จากการที่ได้อยู่กับตัวเองคนเดียวเพียงลำพัง และจะฝึกกิจกรรมที่ได้เรียนรู้นั้นให้รู้จักอดทน จากเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองหรือเด็กคนไหนทางทางาๆ พี่เลี้ยงก็จะเข้ามา เวลาทำกิจกรรมจะรู้สึกลูกนั้นชอบทำตามตามพงหวังหรือคนอื่นชอบให้ความร่วมมือ ทำให้เด็กๆ มีความสามารถในการปรับตัวเข้าหาคนอื่นและจับกลุ่ม เด็ก จะได้เพื่อนใหม่ ๆ มีเพื่อนมากมาย ล้วนแต่มีสติและมีสมาธิในการจัดการดูแลตัวเองให้ดี รู้จักจัดกระเป๋า จัดบ้าน ทำงานบ้าน เด็กจะได้รู้อะไรอย่างและหมั่นมองตัวเองว่าเราควรทำอย่างไร โดยการฟังเรื่องเล่านานนิดหน่อยแล้วถามข้อคิดเห็นก็ปฏิบัติมาร ได้เรียนรู้จักการรอตนเองทีแสนสนุก มีเพลงเพราะๆปลูกก่อนนอนดาวน์ฟังแล้วแจ่มใส ก่อนเข้านอนใดได้มะนม ได้กินอาหารวันละ 3 มื้อพร้อมขนมอร่อยๆ มืองน้ำสะอาดๆ แล้วกิจกรรมนำเด็กๆชอบกิจกรรมตอนบ่ายกะอาจารย์นั่งนิ่งและคริเลี้ยงก่อนนอนเพราะคริเลี้ยงมีมุขปลกๆ ช่วงนี้เด็กๆจะได้คุยกับพี่เลี้ยงและเพื่อนๆ แล้วมีเรื่องสนุกเร้าใจ เช่น หลงป่า เพื่อนแอบเอาโคลนปาย เพื่อนแกล้งลักดอกตู และทดสอบใจ ร้องเสียงดังม้ดๆ กับไม้จูลูกโม้งสนุกพอแล้ว เด็กก็จะนั่งสมาธิ, แล้วเล่นดี มีแต่แน่นังสมาธิเด็ก จะประทับใจในทุกสิ่งทุกอย่างตลอดเวลา ต่อ วัน ในค่ายยุคลาสินิด หรืออายุแค่ แค่ วันอากาศที่เห็นเสมอคือเด็ก จะร้องไห้ทุกครั้ง ประสบการณ์การนั่งสมาธิของเด็ก ได้ผลดีมาก เช่น ด.ญ.ณิชา อิ้งเจริญหรือ น้องจอย อายุ 11 ปี เรียนหนังสือขึ้นประถมปีที่ 5 เข้าค่ายครั้งแรก อายุ 8 ปี อยู่ชันประถมปีที่ 3 เห็นดวงแก้วเท้าลูกฟุตบอลอยู่กลางท้องแล้วดวงแก้วขยายครอบคุมตัวสว่างเทพพระอาทิตย์ตื่นเช้าวันนี้ น้องอายมีความสุขมาก รู้สึกอิ่มท้องกายและเห็นดวงแก้วที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาหน้าไม่ว่ารับประทานอาหาร หรือเข้านอนกลับจากแคมป์แล้ว สวดมนต์ส่งเสริมทุกวัน นิเทศดิ่ง น้ำใสและเบริ่งขึ้นจนคุณแม่ชม