กิจวัตรประจำวันของพระพุทธเจ้า วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน มิถุนายน พ.ศ.2555 หน้า 47
หน้าที่ 47 / 92

สรุปเนื้อหา

พระพุทธเจ้าทรงมีวิธีการตรวจสอบสัตว์โลกว่ามีความสามารถในการเข้าถึงธรรมหรือไม่ ก่อนที่จะเสด็จออกบิณฑบาตในแต่ละวัน ทรงแผ่พระญาณและเลือกธรรมที่เหมาะสมแก่บุคคลที่มาฟัง เมื่อทรงแสดงอนุโมทนา คนที่มีศรัทธาสามารถบรรลุธรรมตามพื้นฐานของตน พระองค์มักจะเสด็จกลับไปยังพระวิหารและแสดงธรรมในตอนเย็น มีประชาชนมากมายมารอรับฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งพระองค์สามารถทำให้ทุกคนได้ยินชัดเจน

หัวข้อประเด็น

-กิจวัตรของพระพุทธเจ้า
-การบิณฑบาต
-การแสดงธรรม
-การช่วยเหลือสัตว์โลก
-ความศรัทธาและการบรรลุธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๔. อฑฺฒรตฺเต เทวปญหน์ แปลว่า เวลาเที่ยงคืนทรงตอบปัญหาเทวดา ๕. ปจฺจสเสว คเต กาเล ภพพาภพเพ วิโลกน์ แปลว่า เวลาใกล้รุ่งทรงตรวจพิจารณา ดูสัตว์โลกว่า ผู้ใดที่สามารถและยังไม่สามารถบรรลุธรรม อันควรจะเสด็จไปโปรดหรือไม่ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จออกบิณฑบาตในแต่ละวันนั้น กิจวัตรที่บำเพ็ญอยู่เป็นประจำ ก็คือการเข้าสมาบัติเพื่อแผ่ข่ายพระญาณตรวจดูเวไนยสัตว์ที่ควรแก่การเสด็จไปโปรดในวันนั้น โดยทรงแผ่ข่ายพระญาณตั้งแต่หน้าพระคันธกุฎีไปจนถึงขอบจักรวาล หากบุคคลใดปรากฏ ขึ้นในญาณทัศนะ ก็ทรงตรวจตราดูว่า บุคคลนั้นมีอัธยาศัยเป็นอย่างไร ควรแสดงธรรม บทใดถึงจะบรรลุธรรม นั่นคือทรงคัดเลือกธรรมเพื่อตรัสแสดงให้เหมาะสมแก่อัธยาศัย ของบุคคลนั่นเอง ตามปกติที่บริเวณหน้าพระคันธกุฎีของพระองค์จะมีผู้มารอการเสด็จออกบิณฑบาต อยู่เป็นประจำทุกเช้าถ้าหากวันนั้นผู้ที่มาปรากฏอยู่ในข่ายพระญาณรออยู่ที่หน้าพระคันธกุฎี พระองค์ก็จะประทานบาตรให้บุคคลนั้น และให้นำเสด็จพระองค์ไปยังบ้านเรือนของเขา เพื่อถวายภัตตาหารแก่พระองค์ เมื่อพระองค์ทรงรับบิณฑบาตในบ้านเรือนของผู้ใดแล้ว ก็จะเสวยภัตตาหารบิณฑบาต ที่บ้านเรือนของผู้นั้น เมื่อเสวยเสร็จแล้ว ก็จะทรงกล่าวอนุโมทนาที่เหมาะสมกับอัธยาศัย ของบุคคลนั้น หรืออัธยาศัยของบรรดาผู้คนที่ติดตามมาฟังคำอนุโมทนาที่บ้านเรือนนั้น เมื่อพระองค์กล่าวคำอนุโมทนาจบลง ก็จะมีผู้เกิดศรัทธาและบรรลุธรรมลุ่มลึกกันไปตาม ระดับพื้นฐานคุณธรรมของตน ซึ่งก็มีบุคคลที่ธุลีกิเลสในใจเบาบาง สามารถบรรลุธรรม เป็นพระอริยบุคคลระดับต่าง ๆ กัน นับตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เมื่อพระองค์ทรงกล่าวอนุโมทนาจบลง ก็เสด็จกลับไปยังพระวิหารที่ ประทับของพระองค์ อย่างไรก็ตามในบางครั้งหลังจากบำเพ็ญภัตกิจแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับอยู่เพียง ลำพังพระองค์เดียวในป่าตลอดทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลาเย็น จากนั้นจึงเสด็จกลับไปยัง พระวิหารเพื่อแสดงธรรมให้ประชาชนฟังอันเป็นพุทธกิจในตอนเย็น ในเวลาเย็นของทุกวัน ไม่ว่าพระองค์เสด็จไปประทับอยู่ที่บ้านเมืองใด ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรือใน เมืองนั้น ต่างก็พากันถือดอกไม้ของหอมอันเป็นเครื่องสักการบูชา เดินทางมาประชุม พร้อมเพรียงกันที่ศาลาฟังธรรม เพื่อรอรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนาจากพระองค์โดยตรง ครั้นได้เวลาพระองค์ก็จะเสด็จจากพระคันธกุฎีมาแสดงธรรมให้ประชาชนฟัง และไม่ว่า ผู้ฟังจะนั่งอยู่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม ก็จะสามารถมองเห็นพระองค์ได้อย่างชัดเจน ได้ยิน ๆ ซึ่ง พระธรรมเทศนาของพระองค์ได้อย่างชัดถ้อยชัดคำเหมือนได้เข้าเฝ้าอยู่ใกล้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นพุทธานุภาพในการแสดงธรรมของพระองค์ ที่มีพุทธประสงค์ให้ผู้ที่ตั้งใจ มาฟังธรรมได้ยินชัดเจนแจ่มแจ้งทั่วถึงทุกคน ๔๕
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More