บทบาทของพระพุทธเจ้าในยามค่ำคืน วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน มิถุนายน พ.ศ.2555 หน้า 48
หน้าที่ 48 / 92

สรุปเนื้อหา

หลังจากแสดงธรรมเสร็จ พระพุทธเจ้าทรงให้เวลาแก่พระภิกษุหลายรูปที่มาจากที่ต่าง ๆ เพื่อถามปัญหาธรรม รวมทั้งการแสดงธรรมในคืนหนึ่งที่มีเทวดามาชุมนุมเพื่อรับฟังการตอบปัญหาจากพระองค์ จากนั้นทรงบริหารเวลาในปัจฉิมยามจนถึงเช้าตรู่ก่อนที่จะออกบิณฑบาตและโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ต่อไป

หัวข้อประเด็น

-แสดงธรรมของพระพุทธเจ้า
-การตอบปัญหาของพระภิกษุ
-การรวมตัวของเทวดา
-การบริหารเวลาในปัจฉิมยาม
-การโปรดเวไนยสัตว์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๔๖ หลังจากแสดงธรรมจบลง เมื่อประชาชนเดินทางกลับไปสู่บ้านเรือนของตนแล้ว พระองค์ ก็เสด็จจากธรรมศาลาไปยังโรงสรงน้ำ เพื่อสรงสนานพระวรกายประจำวัน จากนั้น ก็ เสด็จกลับพระคันธกุฎีเพื่อเตรียมเสด็จออกมาประทานโอวาทแก่พระภิกษุในอันดับต่อไป ๆ เมื่อถึงเวลาค่ำ หลังจากทรงห่มครองไตรจีวรเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็เสด็จออกจาก พระคันธกุฎีมาประทับอยู่บนพุทธอาสน์ ที่พระอุปัฏฐากจัดเตรียมไว้บริเวณหน้าพระคันธกุฎี พระองค์ประทับนิ่งอยู่เพียงลำพัง เพื่อคอยเหล่าพระภิกษุที่เดินทางมาจากที่ต่าง ๆ ทั้งใกล้ และไกล ซึ่งบางรูปบางคณะก็เดินทางมาจากต่างเมืองต่างแคว้น จุดมุ่งหมายของการมา เข้าเฝ้าของภิกษุแต่ละรูป แต่ละคณะ ก็แตกต่างกันไป เช่น บางรูปก็กราบทูลถามปัญหา ธรรมะที่คั่งค้างสงสัยอยู่ในใจมานานแรมเดือนแรมปี บางรูปก็กราบทูลขอให้พระองค์ แสดงธรรม บางคณะก็มาขอรับพระกรรมฐานที่เหมาะสมกับจริตอัธยาศัยของตน บางรูป หรือบางคณะก็กราบทูลขอคำแนะนำในการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และบางครั้งก็ เพื่อรับทราบเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนที่กระทบกระเทือนต่อการคณะสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องใดพระองค์ก็ทรงให้เวลากับพระภิกษุทุกรูปอย่างเต็มที่ ทรงแสดงธรรมและตอบ จึงทรงยุติการประทาน ๆ ปัญหาข้อซักถามต่าง ตั้งแต่เวลาค่ำจนกระทั่งใกล้เที่ยงคืน โอวาทแก่พระภิกษุในค่ำวันนั้น เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน หลังจากพระภิกษุทั้งหลายกราบทูลลากลับไปยังที่พักของตนแล้ว เหล่าเทวดาทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุต่างก็พากันมาชุมนุมเข้าเฝ้าพระองค์โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อทูลถามปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดความสงสัยขึ้นเองบ้าง หรือได้ยินได้ฟังจึงเกิดความสงสัย ต่อ ๆ กันมาบ้าง พระองค์ก็ทรงตอบได้ทุกปัญหาที่ค้างคาใจเทวดาจนหมดสิ้นความสงสัย ทำให้พากันปลาบปลื้มปีติเบิกบานใจ ก่อนจะกราบทูลลากลับไปยังวิมานของตน หลังจากเหล่าเทวดาทั้งหลายกลับวิมานไปหมดแล้ว ก็เข้าสู่เวลาปัจฉิมยามพอดี ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง ๔ ชั่วโมง ก็จะถึงเวลาอรุณรุ่งของวันใหม่ พระองค์ก็ทรงบริหาร เวลาในช่วงปัจฉิมราตรีนี้ออกเป็นสามช่วง (ช่วงละประมาณ ๑ ชั่วโมง ๒๐ นาที) โดย ในช่วงแรกพระองค์จะเสด็จเดินจงกรม เพื่อผ่อนคลายความปวดเมื่อยในพระวรกายที่เกิด จากการประทับนั่งติดต่อกันมานานตลอดทั้งวัน หลังจากร่างกายคลายความปวดเมื่อยแล้ว พระองค์ก็จะเสด็จเข้าสู่พระคันธกุฎีเพื่อบรรทมสีหไสยาสน์ด้วยสติสัมปชัญญะจนสิ้นสุด เวลาในช่วงที่สองของปัจฉิมยาม จากนั้นในช่วงที่สามซึ่งเป็นเวลาใกล้รุ่ง พระองค์เสด็จลุก จากบรรทมแล้วก็ทรงเจริญมหากรุณาสมาบัติ เมื่อออกจากมหากรุณาสมาบัติแล้ว ก็ทรง แผ่ข่ายพระญาณเพื่อตรวจดูเวไนยสัตว์ว่า ผู้ใดควรแก่การเสด็จไปโปรดในวันรุ่งขึ้น เมื่อ ทรงทอดพระเนตรเห็นบุคคลนั้นด้วยญาณทัศนะแล้ว ก็เป็นอันสิ้นสุดพุทธกิจประจำวันนั้น ครั้นพอถึงเวลารุ่งสาง ก็เสด็จออกบิณฑบาตและเสด็จไปโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ด้วย น้ำพระทัยมหากรุณา เป็นการบำเพ็ญพุทธกิจของวันใหม่ต่อไป
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More