ข้อความต้นฉบับในหน้า
06
D M C ช่องนี้มีค่าตอบ
ஊள
๒o
ออกจากตัวเมืองด้วยความเร็วแบบเต็มสปีด คือไม่ว่า
จะควบผ่านแหล่งชุมชน ผ่านทางแยก ผ่านเนิน หรือ
ผ่านทางโค้งภายในเมือง เธอก็แทบจะไม่ได้ลดความ
เร็วลงแม้แต่น้อย เพราะในตอนนั้นในใจของเธอคิดอยู่
อย่างเดียวว่า เธอจะต้องซึ่งเพื่อกลับไปให้ถึงเมือง
ของเธอก่อนตะวันจะตกดินให้ได้
ต่อการกระทำของตัวเองมากมายขนาดไหนก็ตาม แต่
เธอก็ไม่ได้กลับไปขอขมาหรือแสดงความรับผิดชอบ
ต่ออุบัติเหตุในครั้งนี้ เพราะเธอกลัวความผิดและกลัว
ที่จะถูกทางการลงโทษ
๒๒.
ซึ่งผลจากการเฉี่ยวชนสองแม่ลูกในครั้งนี้
ทำให้ลูกชายของผู้หญิงคนนั้นคอหักตายคาที่เกิดเหตุ
๒๐. และในช่วงจังหวะที่เธอกำลังจะออกจาก ส่วนผู้เป็นแม่ก็ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและ
ตัวเมือง ก็มีสองแม่ลูก (ชะตาขาด) เดินข้ามถนน
ในเส้นทางที่เธอกำลังขี่ม้าผ่านมาพอดี ด้วยความที่
เธอควบม้ามาด้วยความเร็วแบบเกินพิกัด กอปรกับ
ถนนในช่วงนั้นก็มีทัศนวิสัยที่ไม่ค่อยดี เพราะมี
ลักษณะเป็นเนินขนาดย่อม ๆ
บอบช้ำทางด้านจิตใจอย่างแสนสาหัส
เมื่อผู้เป็นแม่เห็นว่า ลูกชายของตัวเองตายไป
ต่อหน้าต่อตา อีกทั้งเห็นคู่กรณี ซึ่งก็คือลูกสรนันท์
ในภพชาตินั้น ไม่หันมาดูดำดูดีตนเองและลูกเลย
แม้แต่น้อย ผู้เป็นแม่จึงรู้สึกโกรธแค้นและผูกพยาบาท
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอมองไม่เห็นสองแม่ลูกที่ อาฆาตคู่กรณีเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด
กำลังเดินข้ามถนนจากระยะไกล และเมื่อเธอควบม้า ๒๓. ด้วยความโกรธแค้นและผูกพยาบาทอาฆาต
จนพ้นเนินดังกล่าวแล้ว เธอจึงควบม้าเฉียวแม่และ นี่เอง ผู้เป็นแม่จึงสาปแช่งคู่กรณีในทำนองที่ว่า “ขอให้
ชนลูกเข้าอย่างจัง
คนที่ขี่ม้ามาชนตนและลูกจงตายไม่ดี ขอให้ประสบ
๒๑. ด้วยความตกใจบวกกับกลัวความผิดทาง อุบัติเหตุและตายข้างถนนทุกชาติไป" เป็นต้น
อาญา เธอจึงไม่ได้หยุดมาแล้วลงมาช่วยเหลือสอง
แม่ลูกแต่อย่างใด ซ้ำร้ายเธอกลับควบม้าหนีความผิด จากการฆ่าคนโดยไม่เจตนา กอปรกับแรงแห่งความ
ออกจากตัวเมืองไปอย่างรวดเร็ว
โกรธแค้นและผูกพยาบาทอาฆาตของผู้ที่เป็นแม่ จึง
ถึงแม้อุบัติเหตุในครั้งนี้จะทำให้เธอรู้สึกผิดบาป ส่งผลทำให้ผลแห่งวิบากกรรมปาณาติบาตในครั้งนี้
๒๔. และด้วยแรงแห่งวิบากกรรมปาณาติบาต
๒๑
๒๒
๒๓
๖๓