ข้อความต้นฉบับในหน้า
4. เมื่อหิ้งพระที่บ้านยังร้าง ก็ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมวัดร้างในประเทศไทย
จึงมีเพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี อย่าไปโทษใคร ต้องโทษว่าชาวพุทธเอง
ไม่ตั้งใจศึกษาหาความรู้ในศาสนาของตัวเอง และเราก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในนั้น
ด้วย
และเพราะญาติโยมที่ตั้งใจจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไม่ค่อยจะเข้าใจคำว่า “ศรัทธา”
ซึ่งเป็นธรรมะเบื้องต้นที่จะบรรลุธรรมต่อไปข้างหน้า จึงทำให้ความทุ่มเทใน ๓ เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นมา
๑.
มา
๒.
๓.
ความทุ่มเทที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่เกิดขึ้น
ความทุ่มเทที่จะรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้ถูกทำลายก็หย่อนลงไป ไม่เกิดขึ้นมา
ความทุ่มเทที่จะป้องกันและรักษาศาสนสถานต่าง ๆ ตั้งแต่โบสถ์ วิหาร ให้เหมาะแก่
การปฏิบัติธรรม ไม่เกิดขึ้นมา
ความทุ่มเททั้ง ๓ เรื่องนี้ เป็นความทุ่มเทของคนส่วนใหญ่ ลองมาพิจารณาดูว่า แค่ความ
ทุ่มเทที่จะรักษาพระพุทธรูปประจำวัดให้เป็นที่เคารพสักการะของคนทั้งหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ
ในย่านนั้น ถ้าหากไม่มีศรัทธาในระดับที่ลงมือนั่งสมาธิตามพระองค์ไป ก็ยากจะมีความทุ่มเท
ขึ้นมา แม้แต่โต๊ะหมู่ หรือหิ้งพระที่บ้านตัวเอง เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดหรือวันปีใหม่ ก็จัดดอกไม้
ธูปเทียนมาบูชาอย่างดี แต่หลังจากทำบุญวันนั้นแล้ว ดอกไม้ก็เสียบอยู่ในแจกันนั่นแหละ แล้วก็
ปล่อยทิ้งเอาไว้ เริ่มตั้งแต่ก้านที่แช่น้ำในแจกันก็เน่า ยุงก็ลงไปไข่ในแจกันนั้น ลูกน้ำก็เกิดอยู่ในแจกัน
จนกลายเป็นยุงเต็มบ้าน ผ่านไปแรมเดือนแรมปี แจกันก็ยังตั้งอยู่ที่หิ้งพระ เห็นแต่ดอกไม้แห้ง ๆ
ก้านเน่า ๆ อยู่ที่หิ้งพระ อยู่ที่โต๊ะหมู่ตามเดิม จนกระทั่งครบวันเกิดอีกที หรือปีใหม่อีกที ก็ค่อย
ไปจัดโต๊ะหมู่บูชาใหม่ แล้วก็ไปทำบุญอีกที ดอกไม้ชาวพุทธคงทนเหลือเกิน ช่อเดียว ดอกเดียว
บูชาได้ตลอดปี บูชาตั้งแต่สดจนกระทั่งเน่า จากเน่าแล้วก็แห้ง
ๆ
ทำไมเป็นอย่างนี้ ก็เพราะว่าศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคน ๆ นั้น ยังไม่ถึงระดับที่ลงมือ
ศึกษาและนั่งสมาธิจนกระทั่งสิ้นสงสัยในการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองค์
การที่เราศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้น ก็เพราะว่าพ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด นับถือกันมา ก็เลย
นับถือตาม ๆ กันไป ส่วนว่าพระพุทธศาสนาจะดีจริงแค่ไหน อย่างไร ก็ไม่เคยศึกษากันอย่างจริงจัง
อาการหิ้งพระร้างที่ยกตัวอย่างมานี้จึงเกิดขึ้นให้เห็น
เมื่อหิ้งพระที่บ้านยังร้าง ก็ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมวัดร้างในประเทศไทยจึงมีเพิ่มขึ้นทุกวัน
ทุกเดือน ทุกปี อย่าไปโทษใคร ต้องโทษว่าชาวพุทธเองไม่ตั้งใจศึกษาหาความรู้ในศาสนาของ
ตัวเอง และเราก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในนั้นด้วย
เพราะฉะนั้น วันนี้รู้แล้วก็ขอให้ศึกษาและปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ อย่างน้อยที่สุดก็รู้ในระดับ
ที่สำนึกตัวเองได้ว่า เราผิดพลาดไป
แต่ว่าเราจะต้องทำอย่างไรศรัทธาจึงจะเพิ่มพูนเต็มที่ทั้งในระดับของการนั่งสมาธิ และระดับ
ของการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจเหตุผลจนลงมือปฏิบัติธรรมตามพระพุทธองค์ไป นี่ก็เป็นศรัทธาที่