ข้อความต้นฉบับในหน้า
DM คอลนี้มีคำตอบ
๑. ในช่วงก่อนที่ยมแม่ของลูกจะเสียชีวิตนั้น ในขณะนั้นท่านมีอาการเจ็บป่วย ท่านก็ทราบว่าว่าอาการป่วยของท่านครั้งนี้จะรักษาไม่หายแล้วอีกทั้งท่านก็มีความรู้สึกว่า ท่านคงจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน แต่ยังใด่ตาม แม้ว่ามาแม่ของลูกจะมีความรู้สึกว่าวิชของท่านเป็นเหมือนกับไม้กลิ้งแล้วแต่ยมแม่ของลูกได้เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้เพียงผู้เดียวโดยไม่บอกให้ครรภ์ทราบหรือว่ามีความรู้สึกของท่านเลย ๒. แล้วท่านได้ใช้ช่วงเวลานี้บันดาที่ท่านยังพอจะมีเหลืออยู่ให้ดูดใจและเกิดประโยชน์มากที่สุด ด้วยการตั้งใจทำบุญ ๆ บุญให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญกตัญญูพระภิษุสามเณร ถวายสงฆทาน เป็นต้น ซึ่งยมแม่ของลูกได้เก็บเกี่ยวบุญทุก ๆ บุญด้วยความปลื้มปีติบันใจอยู่เสมอ นอกจากยมแม่ของลูกรัั้งใจส่งสมบุญในช่วงสุดท้ายของชีวิตด้วยการนภถวายทานแล้ว ท่านยังมั่นในกริชจิตใจที่ให้สวดให้ไล้สงค์ใจให้สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้นอีกด้วย ๓. แม้ในช่วงที่มีอาการเจ็บป่วยบรมร่า จนท่านไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นนั่งสมาธิ แต่ท่านก็ไม่ยอมแพ้ พยายามทำสมาธิท่านอยู่เป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งที่ท่านทำสมาธิ ท่านก็จะปล่อยอารมณ์ร่างกายให้ลืมความทุกข์ต่าง ๆ แล้วก็กระลือลั่นถึงบุญ ๆ บุญนิกพิสพระเดชพระคุณหลวงปู่ นึกถึงพระเดชพระท่านาน ๔. เมื่อยมแม่ของลูกได้เข้าใกล้ดวงธรรมภายใน ๕. และเมื่อยมแม่ของลุกได้ทำสมาธิพร้อมกับนักทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา ท่านก็เห็นภาพการสังสมบุญของท่านในอดีตที่ผ่านมา ด้วยความปลื้มปีติอิ่มเเบบในบุญเป็นอย่างมาก และในที่สุดใจของยมแม่ของลูกก็เกิดตัดศูนย์ รวมหยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐาน ๗ แล้วท่านก็ได้เห็นดวงธรรมภายในกายนี้ เป็นองค์ที่มีแสงใส่จาง ที่มาพร้อมกับความสุขที่ทองเลื่อมไหลอยู่ตลอดเวลา ๕. เมื่อยมแม่ของลูกได้เข้าถึงดวงธรรมภายใน