ข้อความต้นฉบับในหน้า
คำว่า “วิชาชาธรรมกาย” คืออะไร?
หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ๔๐๐ ปี สิ่งที่พระองค์ค้นพบ คือ วิชาชาธรรมกาย ได้เลือนหายไป จนกระทั้งพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาสเจริญ ท่านค้นพบวิชาธรรมกายที่หยาสามสูญไปขึ้นมาใหม่ ซึ่งว่า “ธรรมกาย” นี้มีหลักฐานปรากฏอยู่ในตันใดตันหนึ่งในอรรถกถา ๒๕ แห่ง ในวิภาวพระวินัยที่ชื่อว่า สาตตกปีบ ๓ แห่ง ในภาววิธีมรรติม ๒ แห่ง ในคัมภีร์มิลินทปัญหา ๑ แห่ง ในหนังสือประชุมศาสาฏิ ภาคที่ ๓ หนังสือบูมสมโภคา และในต้นฉบับจาริกานทอง ที่ปัจจุบันตั้งแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัดพระเชตุพน-วิมลลังการาม ราวๆ รวมหาวิหาร อีกทั้งในคัมภีร์มรหยานก็ปรากฏ คำว่า “ธรรมกาย” อีกนานมาย แต่มีผู้ที่ได้ศึกษาข้อมูลเกิดความเข้าใจว่ามันเป็นนิกายใหม่ วิชาที่วาจากันไปต่าง ๆ นาน ตรงกันข้ามกับมีผู้บุญบำนาญนไม่ว่าน้อยที่ได้ยินคำว่า “ธรรมกาย” แล้วนึกว่ามาความเข้าใจและเกิดความภาคภูมิใจ ดีใจว่าเป็นบุญของเราที่ได้เกิดในยุคนี้ ซึ่งเป็นคิววิชชาธรรมกายวนกลับคืนมาอีกครั้งและมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วศึกษาวิจัยธรรมกายในที่สุด
หากเราได้ปฏิบัติธรรม วางใจหยุดนิ่งสนิทถูกส่วนที่ยุ่งยากกลางกายฐานที่ ๗ จะพบว่า ตัวเรามีกายทั้งหมด ๑๙ กาย ชื่น ๑ กันอยู่ ซึ่งคำว่า “วิชชาธรรมกาย” แปลว่า ความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้ง ด้วยพระธรรมกาย ต้องเรียนรู้ด้วยพระธรรมกาย คือ ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายในตัวก่อน ถึงจะเรียนและศึกษาวิชชาธรรมกายในที่สุด
เนื่องจากเรียนรู้ด้วยกันอื่น ๆ ไม่ได้ เพราะกายมนุษย์และกายต่าง ๆ ยังมีความคิดเห็น ยังกระลั้นญาณ แต่เมื่อเข้าถึงพระธรรมกายจะเห็นแจ้งด้วยธรรมจักษุ บุญ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง...
เป้าหมายของการศึกษาวิชชาธรรมกาย เป็นไปเพื่อการจัดเก็บอาสะให้หมดสิ้นไป ตั้งแต่ระดับกายไป จนกระทั้งถึงว่ารา ถ้าคาถาปรโดก็จัดเก็บได้ในจุดของเรา เหมือนดับไฟที่ดาว ถ้ากายปราบก็ไปถึงต้นตอของผู้ถือโลซ คือ ไปถึงต้นของโรงงานผลเลยทีเดียว...