ข้อความต้นฉบับในหน้า
"แม่พระผู้มีพระภาคอันต์สัมมาอสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ในอดีต…ในอนาคตกาล…ในบัดนี้ ก็ถึงพระนิพาน ้ ที่เป็นเครื่องเศร้าหมองใจ ทอนกำลังปัญญา มีอุทธังมันคงดีใน สติปัญญา ธงเจิญโพธิ์ของัค ๗ ตามความเป็นจริง จัดรสัฐอุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ"
อันนี้ สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก็คือ การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสารนั้น มิใช่การหลุดพันด้วยการยานอากาศไปเรื่อย ๆ จนออกนอกจัจากวา แต่จะต้องเริ่มต้นที่การเจริญภาวนาจนกระทั่งใจหยุดนิ่ง สงบจากนิพพาน ๕ รวมเป็นจุดเดียว สงบนิ่งเป็นสมาธิ ณ ศูนย์กลางกายของเรา
ครั้งเมื่อบำเพ็ญภาวนาต่อไป จิตเป็นสมาธิละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น ก็จะบรรลุนิยมะ ระดับต่าง ๆ ตามลำดับ ถ้าผู้ปฏิบัติมุ่งทำความเพียรอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ไม่ยอ่อนน้อม และถูกต้องตามหลักวิชา ก็จะสามารถบรรลุมรรค ผล นิพพาน สังยุภายในกายกว้างคอก ยาว ว่า หน่อคีบ ของเราเอง
ธรรมระดับต่าง ๆ นั้น แบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ ๓ ระดับ คือ
(๑) ระดับต้น คือ โลกียมน ประกอบด้วย รูปฌาณ ๕ และอรูปฌาณ ๕ ซึ่งเป็นธรรมะ ที่อยู่ในระดับปฐม
(๒) ระดับกลาง คือ โคตรภูญาณ (เป็นธรรมะที่อยู่ระหว่างปฐมบัณฑิตพระอริยะบุคคล)
(๓) ระดับสูงสุด คือ โลกุตตรธรรม ประกอบด้วย มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ซึ่งเป็นธรรม ที่ทำให้กัจฉลสออกจากใจไปตามลำดับ และเป็นพระอริยะบุคคลสูงขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งหลุดพันจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเดี๋ยวขึ้น ดังนั้น ก่อนที่จะบรรลุโลกุตตรธรรม จะต้องเริ่มต้นที่การเจริญภาวนาสามารถทำให้ใจหยุดนิ่งปลอดจาก นิพพาน & ให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก ครั้งเมื่อเจริญภาวนาต่อไปก็จะสามารถบรรลุธรรมระดับต้น คือ โลกียมน ตอจากนั้นถ้ามีความวิริยะตสาะในการบำเพ็ญภาวนา สม่ำเสมอ ย่อมบรรลุธรรมระดับกลาง คือ โคตรภูญาณ ถ้าปฏิภาณอย่างยิ่งยวดต่อไป ก็จะบรรลุโลกุตตรธรรม ทำให้เปลี่ยนจากสภาวะปฏิญาณเป็นอริยบุคคลไปตามลำดับ จากพระโลกนัน พระอรัญาคาม พระอนาคามี และพระอรัญปฏิรูปจึงสามารถหลุดพันจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารได้สำเร็จ
ด้วยเหตุนี้ แม้ในองค์พระศากยะพุทธองค์ที่ดังใจเหล่านี้ ก็ดังแสดงธรรม ดังใจ สดใสายธรรม ดังใจตรอร่องธรรมเป็นจำนวนมาก แต่ที่สุดพระภิกษุปันยังไม่มุ่งให้กับการเจริญภาวนาอยู่เป็นปกติสิ พระองค์ก็ยังไม่ตรัสเรียกภิกษุรูปนี้ว่าเป็นผู้มีในธรรมดังปรากฏหลักฐานใน ปฏุธรรมวิธีราศาสตร์๓ ดังนี้
1 มหาอริยาพนาสุตร ทิฐิ ๑/๐๙๙/๙๒ (มจร.)
2 ปฏิรูปัภิตัดสินสาร อง.จตก. ๔๕/๕๕/๖๒ (มหร.)
3 ปฏิธรรมวิรัติกุศล อง.ปฺจก. ๓/๓๗/๑๒๗-๑๓๙ (มจร.)