ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระชักบังสกล.. โยมตายแน่ ๆ
อนิจจา วด ลุงอาจารย์ : สร้างทั้งหลายไมเที่ยหนอ
อุปปาวเวมิ้น : มันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปชิตตวา นิรุชฌานติ : เกิดขึ้นแล้วอ่อนดับไป
เตสู ฟูปลใ สุโข : การเข้าไปสงระบังสังวรเหล่านี้เป็นสุข
สุเทพ สุตฺตา มรณติ จ : สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่ตายก็ดี
มรสิจ จ ริษสุส : ที่ตายไปแล้วก็ได้ และที่จะตายไปก็ได้ดี
ต vegah มรสุมามิ : เราก็จะตายเหมือนกันทุกท่าน
นฤคิ เม เอดุก สโส : เราไม่สงสัยในความตายของเราเลย เพราะต้องตายแน่ ๆ
เวลาไปบรรมบาปนาปณกิจศพ ก่อนจะมีพิธีเผา พระจะถือดาลบัตรเดินขึ้นไปบนเมรุ
นอกจากจีนจารผังบังสุกหน้าโลงศพแล้ว ท่านทำอะไรดีตอบว่า ท่านขึ้นไปจิรจรณาความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาของสงสารร่างกายว่า
“อาสุ มยา มริตพุุุุ : อาหาตายแน่ อาตายแน่แน่" เพื่อจะได้ไมประมาท
ในบทเดียวกัน เวลาที่พระกำลังชักบังสุก ญาติโยมทั้งหลายก็ดั้งใจจริญ มรณะสุดทนถึงความตายว่า สักวันหนึ่งเราต้องตาย!! อย่างวัวเร็งร้องให้
ถึงผู้ตายอยูเลย ร้องไห้ไปก็เสียบำตา ใจเศราหมองทุกข์เปล่า ทำใจให้เหล่าไร้
ตั้งใจก็ถึงความตาย นึกถึงบุญ และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ผู้ย propia มันก็รัดกึดับกว่า ผู้ตาย
จะได้ไปสวรรค์ ถ้าเราตายก็จะได้ไป มีสุขเป็นทุกไป