ข้อความต้นฉบับในหน้า
แสดงหาความสุขและครอบครองความสำเร็จจากสมาธิแล้ว ย่อมไม่ประสบคำว่า 'ขาดทุน' แน่นอน อย่างน้อยความสงบจากสมาธินี้ ก็เป็นพลังเสริมสำคัญ ที่ช่วยให้เราสู้ในสนามแรกได้เต็มที่เต็มกำลังมากขึ้น และเมื่อเราผลิตความสำเร็จเปอร์เซ็นต์ที่ 1000 ได้แล้ว เราก็จะพบค่าตอบแทนที่หลงพ่อคิดเป็นได้
สร้างใหญ่ๆทำไม?
= ( ๒ + ๑ )
บางคนคิดเปลี่ยนงาน คิดเปิดร้านกาแฟ กำลังคิดศึกษาต่อ คิดเปลี่ยนแปลงชีวิต หรือคิดวางแผน ร้องผังความจน หรือกำลังมุ่งมั่นค้วาความสำเร็จสักอย่าง เราต่างมีเป้าหมายชีวิตในใจด้วยกัน ทั้งนั้น
ระหว่างที่เราเดินทางไปตามความคิดฝัน เราจะไปพบจุด ๆ หนึ่ง ที่เปรียบเหมือนเป็นจุด 'วัดใจ' ไม่ว่าจะด้วยความเหนื่อยล้า จะด้วยอุสรรค์ที่มากมาย หรือด้วยอะไรก็ตาม ที่จุดวัดใจนี้ จะทำให้เราเริ่มสนสน ลังเล และไม่มีคำว่า จะเดินหน้า ถอยหลัง จะเอาอย่างไรต่อไป Cord คำคิดต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ด้วยความที่ผมเจอความคิดทั้งหลายจึงฉุก ผมเลยเรียกมันว่า ความคิดนี้ที่ ๖' พอเดินทางมาถึงจุดนี้เมื่อไหร่ ผมจะวิตกความคิดนี้ทีเดียว กับความคิดนี้ที่ ๒ มากบ้าง ใช้กลอุบายให้ดำเนินไปสู่เป้าหมาย นั่นคือเมื่อตั้งจุดใดไว้ เราจะย้อนกลับไปคิดทบทวน ที่ระลวงมานมเพราะอะไร มีจุดประสงค์อะไร เป้าหมายจะยังคงเดิมอยู่ไหม แล้วเกิดอุสรรค์อะไร แก้ไขได้ไหม ถ้าแก้ได้แก้ไขอย่างไร พอแก้ได้แล้วก็เดินหน้าต่อ พอเจอจุดวัดใจอีก ก็แก้สมการอีก แล้วก็เดินหน้าของเราต่อไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เริ่มเข้ามาพังความคิดนี้ ๆ ซึ่งเป็นจุดน่ะระหว่างความสำเร็จกับความสิ้นลูก ซึ่งประกอบขึ้นด้วยคำสามคำ "อด ทน สู้!" อด-ให้ได้, ทน-ต่อไป, สู้-ให้ไหว เราต้องอดทนสู้และสูดถนับกับความคิดชั่วนึกครั้นที่เราขอการให้เปลืองชีิวิตในฝันเป็นความจริง เราต้องอดทนสู้ ต้องเอาชนะ และต้องผ่านไปให้ได้ จากบรรยากาศได้ยินได้ฟังความกล้าคิดใหญ่ ทำให้ผมสรุปได้ว่า มาเหรอที่ประสบความสำเร็จในเรื่องได้เรื่องหนึ่งทุกคน ล้วนต้องผ่านขั้นตอนนี้กันทั้งนั้น บางทีชัยชนะและความสำเร็จที่ได้ อาจมาด้วยการไม่ต้องไปต่อสู้หรือแข่งกับใคร ที่ไหนเลย
อยู่ที่ความคิดขั้นที่ ๓ ของตัวเราเองทั้งสิ้น!