มิตรแท้ในปรโลก วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ตุลาคม พ.ศ.2552 หน้า 4
หน้าที่ 4 / 96

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอความสำคัญของการทำบุญและการให้ทานเป็นแนวทางที่จะช่วยให้เรามีความสุขในชีวิต โดยระบุว่าบุญเป็นศูนย์รวมความสุขและความสำเร็จ เปรียบเสมือนแม่น้ำที่ไหลสู่มหาสมุทร นอกจากนี้ยังมีประวัติพระเถระที่ได้รับการต้อนรับจากคนเฝ้าไร่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการอยู่ในบุญและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม คำสอนพระสัมมา สัมพุทธเจ้าเกี่ยวกับการให้ทานในกาลที่ควรเป็นหลักการที่สำคัญในการดำรงชีวิต

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของการทำบุญ
-บทบาทของการให้ทาน
-พระธรรมเทศนาเกี่ยวกับบุญ
-กรณีศึกษา: พระเถระและคนเฝ้าไร่
-การดำเนินชีวิตในหลักธรรมคำสอน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๒ ปกิณกธรรม เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙ มิตรแท้ในปรโลก แม่น้ำทั้งหลายย่อมไหลลงสู่มหาสมุทร ฉันใด ท่อธารแห่งบุญย่อมหลั่งไหลสู่นรชนผู้ให้ข้าว น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน ที่นั่ง ฉันนั้น มหาสมุทรเป็นศูนย์รวมของสายน้ำทั้งหลาย บุญก็เป็นศูนย์รวมของความสุขและความสำเร็จ ทั้งมวลของชีวิต บุญเป็นแก้วสารพัดนึกที่จะบันดาล ทุกอย่างให้เราสมความปรารถนาในทุกสิ่ง ถ้าเรา ปรารถนาความสุขความสำเร็จข้ามชาติ จะต้องรู้จัก วิธีเปลี่ยนโลกิยทรัพย์ให้เป็นอริยทรัพย์ ด้วยการนำ ออกมาทําทาน ถือเป็นการฝากทรัพย์ไว้ตามหลัก พุทธวิธี ที่สามารถติดตามตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ ให้ออกดอกออกผลเป็นรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และมรรคผล นิพพาน ทันทีที่เราตัดความตระหนี่ออกจากใจ สละทรัพย์ทำบุญทำทาน ทรัพย์นั้นก็จะแปรเปลี่ยน เป็นทรัพย์ละเอียด ซึ่งจะอำนวยสุขในทุกสถานทั้งใน โลกนี้และโลกหน้า การหมั่นสั่งสมบุญเป็นวิสัยทัศน์ ของผู้ไม่ประมาท เป็นวิธีเตรียมตัวตายที่ถูกต้อง และปลอดภัยที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าจะหมดลมหายใจ เมื่อไร และถึงแม้หมดสิทธิ์หายใจแต่ก็ยังได้สิทธิ์ไป เสวยสุขในสวรรค์อีกต่อไป ในสมัยพุทธกาล มีพระเถระ ๓ รูป จำพรรษา ในอาวาสแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไกลจากพระวิหารเวฬุวัน เมื่อออกพรรษาแล้ว ได้ชักชวนกันไปเฝ้าพระสัมมา สัมพุทธเจ้าที่พระวิหารเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ ขณะที่ พระเถระทั้ง ๓ รูป เดินทางผ่านไร่อ้อย คนเฝ้าไร่ ผู้มีจิตใจงดงามเห็นพระภิกษุเดินทางผ่านมาก็ดีใจ รีบออกไปต้อนรับ ครั้นทราบว่าพระเถระกำลังเดินทาง เพื่อจะไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความห่วงใย และอยากได้บุญ จึงกราบเรียนท่านว่า “กรุงราชคฤห์ อยู่ห่างจากที่นี่มาก ถ้าเดินทางด้วยเท้าก็ต้องใช้เวลา เดินทางอีกพอสมควร ที่พักระหว่างทางก็หายาก ขอนิมนต์พระคุณเจ้าพักที่ไร่แห่งนี้สักคืนหนึ่งเถิด โยมจะขอรับบุญอุปัฏฐากพวกท่านเอง พรุ่งนี้ค่อย เดินทางต่อเถิดพระคุณเจ้า” พระเถระทั้ง ๓ รูป จึงรับนิมนต์ เพราะเห็นว่า คนเฝ้าไร่แม้จะยากจน แต่ก็ไม่แล้งน้ำใจ คนเฝ้าไร่ ดีใจมากที่พระเถระทั้ง ๓ รูป เมตตาอยู่เป็นเนื้อนาบุญ จึงรีบไปเอาน้ำอ้อยมาถวาย จากนั้นจึงนิมนต์ท่าน เข้าไปจำวัดในที่พัก พอรุ่งเช้า คนเฝ้าไร่รีบตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อถวาย ภัตตาหาร เมื่อพระเถระฉันเสร็จแล้ว ก็แนะนำให้เขา หมั่นนึกถึงบุญบ่อย ๆ และให้ใจอยู่ในบุญจะได้ช่วย หนุนนำให้พ้นจากความยากลำบาก เพราะสิ่งที่เขา ทำถือว่าเป็นกาลทาน คือ ได้ถวายการต้อนรับภิกษุ ที่มาจากทิศทั้งสี่ และการถวายทานแด่ภิกษุผู้เตรียม จะไปนั้น ได้ชื่อว่าปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าที่ตรัสเอาไว้ว่า “ผู้มีปัญญา รู้ความประสงค์ของผู้มาเยือน ปราศจากความตระหนี่ ย่อมให้ทานในกาลที่ควรให้ ผู้ให้ทานตามกาลในพระผู้ปฏิบัติตรง ผู้มีใจผ่องใส
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More