ข้อความต้นฉบับในหน้า
{
วันวิสาขบูชาจึงได้รับการเรียกขานว่าเป็นวันของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นเอกบุรุษผู้เลิศ
ผู้เป็นต้นบุญต้นแบบของมวลมนุษยชาติ
"วิสาขปุรณมีบูชา” หรือที่เรียกกันย่อ ๆ ว่า
“วิสาขบูชา” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน
วิสาขะ อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และ
ปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งบังเกิดขึ้นตรงกันในวิสาขฤกษ์ คือ วันเพ็ญเดือน :
อย่างน่าอัศจรรย์
ด้วยเหตุนี้ วันวิสาขบูชาจึงได้รับการเรียกขาน
ได้ว่าเป็นวันของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็น
เอกบุรุษผู้เลิศ ผู้ถือเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีของ
มวลมนุษยชาติ ที่สามารถฝึกหัดขัดเกลาตนเองให้
มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ กระทั่งบังเกิดปัญญา
อันยิ่งใหญ่ ซึ่งสามารถทำลายอวิชชาให้ดับสูญสิ้นไป
ทำให้พระพุทธองค์ทรงสามารถหลุดพ้นจาก
พันธนาการแห่งห้วงสังสารวัฏได้อย่างแท้จริง ยิ่งไป
กว่านั้นพระพุทธองค์ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ
ในการสั่งสอนเผยแผ่ เพื่อโปรดเหล่าเวไนยสัตว์เป็น
เวลายาวนานถึง ๔๕ พรรษา ตราบกระทั่งถึงวัน
เสด็จดับขันธปรินิพพาน ดังปรากฏใน “พุทธกิจ ๕
ประการ” คือ กิจวัตรประจำวันที่พระสัมมาสัม
พุทธเจ้าทรงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอขณะยังทรงมี
พระชนม์ชีพอยู่ ได้แก่
กิจในปุรภัต คือ กิจในเวลาเช้า
พระพุทธองค์เสด็จออกบิณฑบาตไปสู่คามนิคม
ซึ่งบางคราวเสด็จไปลำพังพระองค์เดียว บางคราว
อ
}
ก็มีพระสาวกตามเสด็จไปด้วย เมื่อทรงกระทำ
ภัตกิจเสร็จแล้ว ทรงอนุเคราะห์มหาชนด้วยการ
แสดงพระธรรมเทศนาโปรด ครั้นเสด็จกลับถึง
อาราม ทรงประทานโอวาทแก่ภิกษุสงฆ์ และตรัส
บอกกัมมัฏฐานที่เหมาะแก่จริตของภิกษุที่มาเฝ้า
ทูลถาม
กิจในปัจฉาภัต คือ กิจในเวลาเย็น
ทรงแสดงธรรมโปรดมหาชนทุกชนชั้น ที่ต่าง
พากันถือดอกไม้และของหอม เป็นต้น เข้าไป
ประชุมกันในวิหาร ซึ่งเมื่อบริษัทพร้อมเพรียงกัน
ดีแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเสด็จมาประทับ
ณ บวรพุทธอาสน์ ทรงได้แสดงธรรมอันควรแก่
กาลสมัยและจริตของมหาชน ส่งผลทำให้มี
มหาชนได้เข้าถึงไตรสรณคมน์ และได้บรรลุธรรม
เป็นพระอริยบุคคลในระดับต่าง ๆ กันอย่าง
มากมาย
กิจในปฐมยาม คือ กิจในเวลาค่ำ
ทรงประทานโอวาทแก่เหล่าภิกษุ ซึ่งภิกษุบาง
พวกก็ทูลถามปัญหา บางพวกก็ทูลขอให้ทรง
แสดงธรรมในเรื่องต่างๆ ซึ่งพระพุทธองค์ทรง
อนุเคราะห์ด้วยการไขปัญหา แสดงธรรม และ
ประทานโอวาทแก่เหล่าภิกษุ ผู้เป็นกำลังอัน
สำคัญในการเผยแผ่พระศาสนา