การวางแผนของพระเทวทัต วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2552 หน้า 90
หน้าที่ 90 / 120

สรุปเนื้อหา

พระเทวทัตพยายามโค่นอำนาจพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการใช้วิธีการที่เลวร้ายและพยายามใช้ความรุนแรง เช่น การจ้างให้ช้างแทงพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่เคยใช้ความรุนแรงกลับ มีเพียงความสงบเย็นตลอด ๔๕ ปีที่ทรงสั่งสอนชาวพุทธ พระพุทธศาสนามีการเผยแผ่ที่ไม่ใช้ความรุนแรงตลอด ๒,๕๐๐ ปีที่ผ่านมา และมีนักบวชที่มาเรียนรู้ก็พบแต่ความดีในคำสอนของพระพุทธเจ้า จนนำไปสู่การยอมรับในพระพุทธศาสนา เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์แบบและการตั้งใจปฏิบัติตามหลักธรรมในคำสอนของพระองค์ เช่น ทาน ศีล ภาวนา โดยชาวพุทธทุกคนควรภูมิใจในศาสนาของตนและทำให้วันวิสาขบูชานั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างบารมีของตน.

หัวข้อประเด็น

-แผนการของพระเทวทัต
-ความเมตตาของพระพุทธเจ้า
-การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
-การเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์แบบ
-หลักธรรมในการปฏิบัติ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

5020 ครั้งหนึ่งพระเทวทัตวางแผนโค่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หวังจะเป็นใหญ่ จะเป็นศาสดาแทน วางแผนเข้าไปตีสนิท กับเจ้าชายอชาตศัตรู หวังจะอาศัยอำนาจทางโลกมาช่วยให้ ตนยึดอำนาจการปกครองคณะสงฆ์ได้ ไปหลอกจนพระเจ้า อชาตศัตรูเลื่อมใส แล้วก็ทำปิตุฆาต คือ ฆ่าพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งเป็นพระราชบิดา แล้วขึ้นครองบัลลังก์แทน แล้วก็ใช้อำนาจ ของพระเจ้าอชาตศัตรูกลั่นแกล้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกอย่าง มีอยู่คราวหนึ่งให้มอมเหล้าช้างนาฬาคีรีให้เมา แล้ว ก็ปล่อยออกมา หวังให้แทงพระพุทธเจ้าให้ปรินิพพาน พอ ช้างนาฬาคิรีวิ่งเข้ามาใกล้ พระอานนท์ออกไปยืนขวางหน้า พระพุทธเจ้า ยอมตายก่อนจนพระพุทธเจ้าต้องเรียกกลับ แล้ว ก็ใช้กระแสพระเมตตาจนกระทั่งช้างนาฬาคิรีสยบอยู่แทบ พระบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง เหตุการณ์จะวิกฤตเพียงใด ร้ายแรงเพียงไหน พระองค์ ไม่เคยตอบโต้ด้วยความรุนแรง มีแต่ความสงบเย็นตลอดมา ทั้ง ๔๕ พรรษา พระองค์ไม่เคยสอนชาวพุทธให้เผยแผ่ พระพุทธศาสนาด้วยความรุนแรงตลอด ๒,๕๐๐ กว่าปีที่ผ่าน มา กระแสแห่งพุทธธรรมจึงเป็นประดุจธรรมธาราอันชุ่มเย็น ซึมซาบเข้าไปในใจของชาวโลกทั้งมวล ส่องสว่างนำทางชีวิต ผู้คนทั้งหลาย พระพุทธศาสนาไม่เคยมีสงครามศาสนา เคยมี นักบวชผู้เผยแผ่ศาสนาอื่นมาศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนา หวังจะมาจับผิด จะได้เอามาเป็นข้อโจมตี เปลี่ยนให้ชาวพุทธ หันไปนับถือศาสนาของเขา แต่ด้วยความที่นักบวชท่านนี้ เป็นคนที่มีใจเป็นธรรมพอสมควร เมื่อศึกษามากขึ้น กลับหา ข้อติไม่เจอ เจอแต่ข้อที่ควรชื่นชม จนสุดท้ายท่านก็เปลี่ยน มาเป็นชาวพุทธ และกล่าวไว้ว่า “เพียงพิจารณาจากความจริง ที่ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีคำสอนที่ไม่เบียดเบียน ข้อนี้เพียงประการเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะให้ข้าพเจ้าเปลี่ยน มานับถือพระพุทธศาสนา ยังไม่ต้องกล่าวถึงหลักธรรมที่ เลิศเลอประการอื่นใดทั้งสิ้น” แล้วเขาก็ได้บำเพ็ญตนเป็น ผู้ประกาศพระพุทธธรรมที่ขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง ทุ่มเท ทั้งชีวิตตลอดมา นี้ก็คือสุนทรียภาพในพระบรมศาสดา ใน ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงสอนพวกเรา ให้ พวกเราชาวพุทธทุกคนภูมิใจเถิดที่เราเกิด มาเป็นชาวพุทธ นับถือพระพุทธศาสนา มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแบบอย่าง แล้ว ให้ตั้งใจเอาวันวิสาขบูชาเป็นจุดเริ่มต้น ของเรา ให้เราเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์แบบ ถามว่าทำอย่างไรจะสมบูรณ์แบบ ให้ยึดหลักใหญ่ๆ ๒ ประการ ประการแรก ก็คือ ตั้งใจปฏิบัติ ตามพระธรรมคำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าให้สมกับความเมตตาของ พระองค์ ที่อุตส่าห์สร้างบารมีมายาวนาน ทนทุกข์ทรมานทุกอย่าง โดยไม่ย่อท้อ เพื่อจะนำธรรมะมาสอนเรา โดยย่อๆ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา ทาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง สละทั้งชีวิต ไม่ใช่แค่ภพสุดท้ายชาติเดียว เท่านั้น แต่ว่าตลอดการสร้างบารมี “ดวงตา ทั้งสองที่ควักออกมาสละเป็นทานมากกว่า ดวงดาวบนฟ้า เนื้อที่เฉือนออกเป็นทาน รวมกันแล้วสูงใหญ่ยิ่งกว่าภูเขาพระสุเมรุ เลือดที่พระองค์สละเป็นทาน รวมกันแล้ว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More