มหาธรรมกายเจดีย์และความสุขภายใน วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2552 หน้า 53
หน้าที่ 53 / 120

สรุปเนื้อหา

ผู้เขียนเชื่อว่า มหาธรรมกายเจดีย์จะนำมากล่าวถึงสันติสุขภายในและความสุขแท้จริงในชีวิตของทุกคน โดยแม้จะเป็นคนต่างชาติ ก็สามารถพบเจอความสุขที่แท้จริงได้ จากประสบการณ์ในการมองเห็นความงดงามของธรรมชาติรอบตัว ผ่านการทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย การเข้าใจและมองเห็นองค์พระธรรมกายประจำตัวว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันและสามารถเข้าถึงได้ ทำให้โลกนี้ดูสวยงามขึ้นและเชื่อว่าเราจะได้เรียนรู้ความจริงของโลก.

หัวข้อประเด็น

-วิธีเข้าถึงความสุข
-บทบาทของมหาธรรมกายเจดีย์
-การทำใจให้หยุดนิ่ง
-การมองโลกในแง่ดี
-การเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยสมาธิ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ผมเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่า มหาธรรมกายเจดีย์จะก่อให้ เกิดสันติสุขภายในแก่ชาวโลกได้อย่างแท้จริง เหมือนกับตัว ผมเองที่แม้จะเป็นคนต่างชาติต่างภาษา แค่มุมมองจากฟ้า มองมาเห็นเจดีย์ ก็สามารถพาตัวเองเข้ามาจนพบหนทาง เข้าถึงความสุขภายในที่แท้จริงได้ เปิดเจลิส ภายในศูนย์กลางกายได้อย่างง่ายๆ ลองคิดดูสิ ใน ยามค่ำคืน ภาพที่อยู่ตรงหน้าผม คือ หมู่ดาวดารดาษ มากมายบนท้องฟ้า และในความมืดอันสงบนิ่ง แม้ว่า ผมยังต้องสาละวนกับปุ่มและมอนิเตอร์มากมาย บนแผงบังคับเครื่องบิน แต่ผมก็รู้สึกมีความสุขดื่มด่ เป็นอย่างยิ่งกับบรรยากาศภายนอกเช่นนั้น ในยาม ฟ้าสว่าง ผมได้เห็นขอบฟ้าและเมฆสีสวยสะท้อน ตามแสงตะวัน โอ้....ผมสามารถน้อมใจเข้ามาที่ ศูนย์กลางกายและหย่อนใจอย่างเบาๆ ได้อย่าง ง่ายๆ ปัญหาอยู่ที่ว่าทำอย่างไรจะอยู่อย่างนี้ได้นานๆ มากกว่าครับ.. หลังจากนั้น เมื่อผมได้ทราบข่าวการสร้าง พระธรรมกายประจำตัวในช่วงโค้งสุดท้าย ผมก็รีบ ตกลงทำทันที เพราะภาพมหาธรรมกายเจดีย์นี้เอง ที่ทำให้ผมได้ชีวิตใหม่ ผมเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่า มหาธรรมกายเจดีย์จะก่อให้เกิดสันติสุขภายในแก่ ชาวโลกได้อย่างแท้จริง เหมือนกับตัวผมเองที่แม้ จะเป็นคนต่างชาติต่างภาษา แค่มุมมองจากฟ้า มอง มาเห็นเจดีย์ ก็สามารถพาตัวเองเข้ามาจนพบหนทาง เข้าถึงความสุขภายในที่แท้จริงได้ คงไม่จำกัดเฉพาะแต่ชีวิตของผู้คนที่สัญจร บนท้องฟ้า แต่ทว่า เราทุกคนที่สัญจรอยู่บนท้องถนน ไม่ว่าด้วยรถเมล์ รถยนต์ รถไฟ หรือการสัญจร ด้วยเท้าทั้งสองก็ตาม เราสามารถมองเห็นโลกใบนี้ สวยงามขึ้นได้ ถ้าเราเดินช้าลงและสังเกตให้มากขึ้น เช่นเดียวกับภาพมหาธรรมกายเจดีย์ที่ทุกคนเห็น ถ้าเรามองผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราจะเห็นแค่เพียง ถาวรวัตถุทรงโดมสีทอง แต่ถ้ามองให้นานขึ้นเรา จะเห็นว่า บนโดมสีทองนั้นมีองค์พระประดิษฐาน อยู่มากมาย ยิ่งมองให้ลึกลงไปเราก็จะยิ่งทราบว่า องค์พระทุกองค์ที่ประดิษฐานนั้นมีพุทธลักษณะที่ งดงามยิ่งนัก เมื่อพิจารณาที่ฐานองค์พระเราก็จะ พบอีกว่า มีชื่อผู้สร้างสลักอยู่ เมื่อใจของผู้ดูนิ่งขึ้น สงบขึ้น เราก็จะทราบว่า พระธรรมกายประจำตัว ที่ประดิษฐาน ณ มหาธรรมกายเจดีย์แห่งนี้ เป็น องค์พระที่ถูกถอดแบบมาจากองค์พระธรรมกาย ภายในตัว ที่ทุกคนไม่ว่าจะเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา หรือสีผิวแบบไหนต่างก็มีเหมือนกัน และทุกคน สามารถเข้าถึงองค์พระองค์นั้นได้ด้วยการทำใจให้ หยุดนิ่ง แล้วในที่สุดองค์พระที่อยู่ภายในตัวของเรา นั่นเองจะนำความสุขอันเป็นนิรันดร์มาให้ องค์พระ องค์นี้จะเปิดเผยความจริงของโลกและจักรวาลให้ เราได้เรียนรู้ เราจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างจากใจที่ งดงาม ซึ่งภาพที่ปรากฏจักเป็นภาพที่สวยงามที่สุด ในใจของเรา สรุปสุดท้าย “โลกจักสวยงามขึ้น ถ้าเราเดิน ให้ช้าลง” และเราจะพบโลกใบที่สวยงามกว่า ถ้า เราหยุดเดินแล้วมานั่งหลับตาทำใจให้หยุดนิ่งที่ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นเรื่องที่น่าแปลกแค่ทำใจ หยุดนิ่ง จะพบโลกที่สวยงามได้อย่างไร “ไม่คิด ไม่แปลก ยิ่งคิดยิ่งแปลก” แต่ถ้าจะไม่ให้แปลก อีกต่อไป คือ หยุดคิดแล้วมานั่งหยุดใจกันดีกว่า ยิ่งหยุด ยิ่งนิ่ง ยิ่งเร็ว หยุดให้ได้เสียก่อน เรื่องอื่น มากมายใหญ่โตมโหฬารนัก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More