การอบรมลูกหลานให้มีระเบียบและเคารพผู้อื่น วารสารอยู่ในบุญประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2559 หน้า 91
หน้าที่ 91 / 140

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอแนวทางการอบรมลูกหลานให้มีระเบียบวินัยและเคารพผู้ใหญ่ โดยเน้นว่าไม่ควรปล่อยให้ย่าตายายเลี้ยงหลานอย่างเดียว ทั้งยังเตือนเหล่าพ่อแม่ให้ช่วยจัดเตรียมอาหารด้วยความเต็มใจ นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังในการเลี้ยงดู โดยไม่ให้ลูกหลานมีพฤติกรรมที่ทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกไม่ดี เช่น การเปรียบเทียบสิ่งของ หรือการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียในอนาคตให้แก่สังคม ยังเตือนให้ระวังถึงการกระทำที่อาจนำไปสู่ปัญหาในระดับครอบครัวและสังคม โดยตั้งอยู่บนหลักการของการอบรมที่ถูกต้อง

หัวข้อประเด็น

-การอบรมลูกหลาน
-พฤติกรรมที่เหมาะสม
-เคารพผู้ใหญ่
-แนวทางการเลี้ยงดู

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากได้ลูกหลานดื้อ ๆ ต้องไม่ปล่อยให้ย่าตายายเอาไปผูกขาดเลี้ยง เสียเอง ผู้เฒ่าทั้งหลายก็อย่าไปวุ่นวายเลี้ยงหลาน อยู่วัน ๆ ช่วยพับบางครั้งบางคราว เอาเวลา ส่วนใหญ่ใส่สีเสื้อผ้าดีกว่า ส่วนพวกลูก ๆ ทั้งหลายก็อย่าเสร็จเลย พ่อแม่ ท่านอยากกินอะไร ก็ช่วยจัดมาให้ อย่าไปนึกว่าท่านจู้จี้ เพราะเมื่อเราเด็ก ๆ เรารักพ่อแม่ท่านก็ชอบสำไปซื้อของให้ เพราะฉะนั้นตอนนี้รับตอนนี้ตอบแทนท่านเสีย เวลาจัดให้ก็ต้องทำด้วยความเต็มใจ ถ้าทำด้วยความไม่เต็มใจ ผู้เฒ่าร้องก็ออกแล้วจะน้อยใจ ถ้าคนแก่ก็อย่าไล่จะอายสั้น จำเอาไว้ ถ้าอยากให้พ่อแม่ ย่่า ตายายอายุ้นอย่าไปทำให้น่ารำคาญ ข้อ ๒๖. "กิริยพูดทำความศึกษาว่า เราจัดไม่ถูกของผู้อื่นด้วยคิดจะโทษ" เวลาอาหารถ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ให้พระภิกษุปาฏคนนอื่น คือ ไม่ให้ดูว่า พระรูปไหนได้กับข้าวดีกว่าเราหรือน่าได้มากหรือได้น้อย เพราะดูแล้วอดเหมาระเปรียบเทียบไม่ได้ บางทีผลพูดกระทบใจนักเข้าอีกเรื่องแบบนี้ ถ้าครอบครัวใดไม่ฝึกอบรมลูกหลานให้ดีจะเกิดปัญหา คือ ลูก ๆ ไปบ้านคนอื่นแล้วไปเที่ยวกบกับข้าวของเขา ครั้นเห็นเขาอยู่ดีดี ดักวิ่งออกจากเตียง ใบหน้าเป็นพวกกลิ่นบ้าง นายทุนบ้าง ดีไม่ถึงขนาดอยากเปลี่ยนแปลงการปกครองไปโน่น เป็นผลต่อไปในอนาคต กระทบกระเทือนถึงระดับแผ่นดิน เพราะไม่อบรมลูกไว้แต่ต้นนั้นเอง ข้อ ๓๗. "กิริยพูดทำความศึกษาว่า เราจักไม่ทำคำขวัญให้ใหญ่โต" ความจริงเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องมาพูด แต่เห็น อยู่เป็นประจำ แล้วอยากบอกให้รู้เรื่องบางอย่าง เมื่อก่อนหลวงพ่อยังมีเวลา พอฉันเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินไปเยี่ยมทุกคนที่กินอาหารอ๋ย เห็นบางคนค้ำนำ้โอ่ เรียงว่าคำเขาก่อนี้ก็ไม่เคยด่า ให้นับ ๑ แต่ดูเขาตักคำเล็ก ๆ ไปเหมือนเด็กเล่นหลวงพ่อเองไม่ให้พูดดูไม่เหมาะดูไม่ค่อยดู ไม่เคยดูว่ามันเด็กเล่นหลวงพ่อเองไม่ได้เห็นเด็กเล่นอะไร ทั้ง ๆ นั้น มีลักษณะดังนี้ คือ ๑. เป็นคนทำอะไรแล้วไม่รู้จักประมาณ ทำอะไรหยาย ๆ แค่บากตัวเองยังประมาทไม่ถูก เพราะฉะนั้นนั่นวิชาด้านศิลปะอย่าได้ไปเรียนเลย แค่คำว่าข้าวยังไม่รู้จักประมาณ เรื่องอื่น ๆ ประมาณไม่เป็นหรอก ๒. พ่อคนนี้เขาน่ะต้องเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เพราะข้าวคำโตนั่งอย่างไรเสีย พื้นก็เคืองไม่ละอียด ได้แต่เคี้ยวพยำ ๆ ก็กลืนเอาออกไป ลำใส่ก็ต้องทำหน้าที่หัน แม้ไม่ตามไปดูในห้องน้ำก็ตามเลยว่ายันดึ่นถ่ายออกมาหายบ่อยเป็นขี้ระแหน่ ระบบลำไส้เสียหมด ผลต่อมายุไม่ยืน และถึงแม้จะอยู่ก็จะมีโครษะของทางเดินอาหารติ๊ดตัวไปจนตาย หลวงพ่อเห็นเขาแต่คำคำว่าข้าวก็เหลือว่าจำ เจ้าคนนี้ครอบงามหมายในประทุง บุก ลุยให้ทำ งานประดิษฐ์ ๆ อย่าได้บอบเลย ไม่มีทางทำได้ แต่ในเวลาเดียวกันคนที่ตักข้าวก็ละเมิดสองมืด ใจนี้ดีว่าก็ทำอะไร ๆ ยาก ๆ เป็นโรคบิดหลังติดเสื้อ การงานเห็นเบื่อข้าวปลุกได้ อย่างนี้อย่าได้ไปใช้งานอะไรเลย ทำไมสำเร็จหรอก ลองไปสั่งเกตกันนะ (อ่านต่อฉบับหน้า)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More