ข้อความต้นฉบับในหน้า
คำว่า "ลุติ" ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเอง
นักบวชนอกพระพุทธศาสนา เช่น ปริพาชก อเลคา พราหมณ์
กำเนิดและวิวัฒนาการของคำว่า "ลุติ"
จากคำที่ปรากฏในคัมภีร์ก็แต่ละยุค พอจะอนุมานได้ว่า คำว่า "ลุติ" ที่ใช้ในความหมายว่า "ความเห็น" หรือ "คำสอน" ค่อนข้างจะใหม่เมื่อเทียบกับคำว่า "สานุ" (sāsana) ที่มีปรากฏตั้งแต่คัมภีร์พระพุทธศาสนายคัน13 หรือคำว่า "สานุ" (sāsana) ที่มีปรากฏตั้งแต่คัมภีร์รฤกษ์14 หรือคำว่า "ศาสนา" (saśsana) ที่มีปรากฏตั้งแต่คัมภีร์ราชยะ14 ในยุคพระเวท กล่าวคือ ไม่มีปรากฏในคัมภีร์สูตรต้น แต่เริ่มมาบรางๆ ในคัมภีร์ครอสต่อระหว่างยุคต้นกับยุคอิทธิธรรม คือ "นิตเทส" (กรณีที่ 1) โดยกล่าวถึง "นักบวชนอกพระพุทธศาสนา" อาทิ เช่น ปริพาชก อเลคา พราหมณ์ และต่อมามีการใช้เพิ่มขึ้นในคัมภีร์ "อธรกถา" (กรณีที่ 2-4) โดยยังคงมีการกล่าวถึง "นักบวชนอกพระพุทธศาสนา" อยู่เช่นเดียกันกับคัมภีร์ "นิตเทส" แต่เพิ่มเติมกว่านั้นใช้เรียกขานไปถึง "ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระพุทธเจ้าและพระสาวก" เช่น พระเทวต พระภิษุชาวเมืองโกศิลมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในคัมภีร์ "อรรถกถาของถาวัตถ" (กรณีที่ 5) ได้มีการใช้เรียกว่า "พระพุทธศาสนา
13 DN I: 11017; DN II: 20621; MN I: 12917; AN I: 29429; AN II: 26 14; Dhp 381: Sn 445, 482 เป็นต้น
14 RV I: 31.11c เป็นต้น