ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมบทธา
วาสสาวิวิชาการทางพระพุทธศาสนา ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 (ฉบับรวมเล่มที่ 7) พ.ศ. 2561
(adhippāya=ความประสงค์)15 ซึ่งจะเห็นได้ว่าคำอื่นๆ มีริกฎใน คำเป็นพระพุทธศาสนายุคต้น ยกเว้นคำว่า "ลภิ" และในจำนวนนี้ คำว่า "ทิฏฐิ" มีความหมายและลักษณะการใช้ที่ตรงกับคำว่า "ลภิ" มากที่สุด และพบมากในคัมภีร์คู่กัน เพียงแต่ลักษณะการใช้ของ "ทิฏฐิ" จะมีทั้ง ทัศนะในด้านบวกและด้านลบ ซึ่งแตกต่างจาก "ลภิ" ที่มีลักษณะการใช้ ค่อนข้างไปในด้านลบเพียงฝ่ายเดียว คล้ายกับเป็นคำที่สร้างขึ้นมาใช้ใน การเรียกลุ่มหรือบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อแนวคิดของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝ่ายตรงกันข้าม จนชวนให้คิดว่า "ลภิ" อาจเป็น คำนี้ใช้เฉพาะเพียงฝ่ายถวาถ่นั้นก็เป็นได้
บทสรุป
จากการศึกษาบริบทการใช้คำว่า "ลภิ" (laddhi) จะเห็นได้ว่า มีทัศนคติดบ่อซ่านไปในทางลบ แม้รูปศัพท์จะไม่บอกว่าเป็นบวก หรือบวกก็ตาม โดย "กลุ่มเป้าหมาย" จะแบ่งออกเป็น (1) นักบวชนอก พระพุทธศาสนา เช่น ปริพาชก อเจลก พราหมณ์(2) พระภิกษุใน พระพุทธศาสนาเอง แต่มีความเห็นที่เป็นปฏิปักษ์กับพระพุทธองค์ เช่น พระเทวทัต (3) พระภิกษุในพระพุทธศาสนาต่างนิกายที่ไม่ใช่เถรวาท เช่น มหาสงิฏฐิ สวาสดิวิวาท เป็นต้น เมื่อพิจารณาจากคำที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา เรกวา แต่ละยุค พอจะอนุมานได้ว่า คำว่า "ลภิ" ที่ใช้ในความหมายว่า "ความเห็น" หรือ "คำสอน" นั้นเป็นคำค่อนข้างจะใหม่ กล่าวคือ ไม่มี
15 นอกจากยังพบรูปแบบลักษณะนี้ใน MNd: 1058-9, 16212-13, 28823-24, 32621-22 เป็นต้น
16 Vin I: 1156; DN I: 3124, DN III: 13124; MN I: 404; SN II: 615; AN II: 25232; AN III: 13218; Thīng 184 เป็นต้น