ประวัติศาสตร์การกินคนในโซโลมอน วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2549 หน้า 61
หน้าที่ 61 / 84

สรุปเนื้อหา

ในอดีต ชาวโซโลมอนมีวิถีชีวิตเรียบง่าย และการกินเนื้อคนเป็นเรื่องปกติ พวกเขามีขนบธรรมเนียมที่แปลกประหลาด ต้องฆ่าคนเพื่อให้ได้อาหาร และเนื้อที่นิยมคือเนื้ออัดกระบอกไม้ไผ่ ชาวโซโลมอนแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดา และซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง แต่การกินคนเริ่มลดน้อยลงเมื่อมีมิชชันนารีเผยแผ่ศาสนาในปี ค.ศ. 1900 และกฎหมายห้ามการกินคนทำให้พวกเขาไม่สามารถฆ่ากินคนได้ตามใจอีกต่อไป ปัจจุบันชาวโซโลมอนได้รู้จักกับความคิดเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมและได้ลองนั่งสมาธิจากการชักชวนของกัลฯ เปเล่ ผ่านการดู DMC ทางอินเทอร์เน็ต ทำให้พวกเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงและตื่นเต้นกับแนวทางใหม่ในชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-ประวัติศาสตร์การกินคน
-วัฒนธรรมโซโลมอน
-วิถีชีวิตชาวโซโลมอน
-การเผยแผ่ศาสนา
-การนั่งสมาธิและกฎแห่งกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ในอดีตโซโลมอนเป็นดินแดนของมนุษย์กิน คนหลายเผ่า พวกเขามีความเป็นอยู่เรียบง่าย ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน อพยพไปเรื่อยๆ เพื่อความ ปลอดภัยจากศัตรูต่างเผ่า พวกเขามีอุปนิสัยก้าวร้าว ไม่รู้จักการให้อภัย หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างเผ่า หรือระหว่างบุคคลก็ตาม ก็จะแก้ปัญหาด้วยการ ต่อสู้ฆ่าฟันกันใครแพ้ก็ต้องตกเป็นอาหารของผู้ชนะ นอกจากศัตรูแล้วพวกเขายังกินคนแปลกหน้าอีกด้วย การกินเนื้อคนเป็นเรื่องปกติของพวกเขา เหมือนที่คนทั่ว ๆ ไปกินเนื้อหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ กิน ได้ทั้งแบบดิบๆ และปรุงสุก อาหารอร่อยชนิดหนึ่ง ที่นิยมกินกันคือ เนื้ออัดกระบอกไม้ไผ่ซึ่งมีวิธีทำดังนี้ เริ่มจากฆ่าคนให้ตายเสียก่อน แล้วแล่เนื้อออกจาก กระดูก ล้างให้สะอาด นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ น้ำทะเลเล็กน้อยพอเค็มๆ จากนั้นอัดใส่กระบอก ไม้ไผ่ปิดฝา แล้วนำไปเผาคล้ายข้าวหลาม ประมาณ ๑ ชั่วโมง เนื้อก็จะสุกหอมน่ากิน แม้ชาวโซโลมอนจะกินคน แต่พวกเขาก็มี คุณธรรมที่เห็นได้เด่นชัด คือ มีความกตัญญูต่อ บิดามารดา คอยดูแลเมื่อท่านแก่เฒ่า ถ้าตายก็นำ มาฝังไว้ใกล้ ๆ บ้านให้ลูกหลานได้บูชา นอกจากนี้ พวกเขายังซื่อสัตย์ต่อคู่ครองอีกด้วย ถ้าใคร นอกใจคู่ครองจะถูกฆ่ากินเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง แก่คนรุ่นหลัง การกินเนื้อคนเริ่มลดน้อยลงเมื่อมิชชันนารี เข้ามาเผยแผ่ศาสนาราวๆ ค.ศ.๑๙๐๐ และในช่วง ต่อๆ มาก็มีกฎหมายห้ามกินคนออกมา พวกเขา จึงไม่สามารถที่จะฆ่าใครกินได้ตามใจชอบอีกต่อไป บัดนี้ยุคมืดแห่งดินแดนคนกินคนได้ผ่านพ้น ไปแล้วอย่างแท้จริง เมื่อความสว่างไสวด้วย แสงธรรมได้สาดส่องเข้าไปสู่ดวงใจของผู้คนใน ดินแดนแห่งนี้แล้ว โดยมี กัลฯ สังเวียน ขั้นชัยภูมิ (เปเล่) เป็นกัลยาณมิตรให้กับชาวโซโลมอนใน กรุงโฮนีอารา (Honiara) ด้วยการชักชวนพวกเขา มาดู DMC ทางอินเทอร์เน็ต จากเว็บไซต์ www.dmc.tv ทำให้พวกเขามีโอกาสทราบเรื่อง กฎแห่งกรรมและเรื่องราวในปรโลก พวกเขารู้สึก ตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่ามีผู้ที่สามารถบอกได้ว่าบรรพ บุรุษของพวกเขาที่ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน หลังจากดู DMC แล้ว กัลฯ เปเล่ก็ชวนให้ พวกเขาลองนั่งสมาธิ โดยสอนให้นึกถึงดวงแก้ว กลมๆ ใสๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย พร้อมกับภาวนา “สัมมาอะระหัง” โดยไม่ต้องคิดอะไร ให้ทำตัวเหมือน อยู่คนเดียวในโลก ในช่วงแรกๆ พวกเขานั่งกัน วันละครึ่งชั่วโมง ทุกวันในเวลาพักเที่ยง ครั้งแรกมี คนมานั่งเพียง ๒ คน เวลาผ่านไปเพียง ๔๐ วัน กัลฯ สังเวียน ขั้นชัยภูมิ (เปเล่ ...การกินเนื้อคนเป็นเรื่องปกติของพวกเขา เหมือนที่คนทั่วๆ ไป กินเนื้อหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ กินได้ทั้งแบบดิบๆ และปรุงสุก อาหารอร่อยชนิดหนึ่งที่นิยมกินกันคือ เนื้ออัดกระบอกไม้ไผ่...
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More