ข้อความต้นฉบับในหน้า
40
O คนขายเนื่อ
41
คนขายเนีย
“องค์กษัตริย์มีพระราชประสงค์จะยกพระราชธิดาให้ท่าน ถ้า
ท่านตอบรับ ไม่เพียงแต่จะได้รับสินสอดเงินทองมากมายมหาศาล
ยังสามารถรับราชการเป็นขุนนางผู้ใหญ่ด้วย นี่เป็นโอกาสที่ยากจะ
พบพานในรอบพันปี ข้าพเจ้าคิดว่าท่านคงไม่ปฏิเสธกระมัง”
ชายขายเนื้อตอบไปว่า
“ข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์กษัตริย์
เป็นอย่างยิ่ง แต่ข้าพเจ้าไม่อาจรับเรื่องนี้ไว้ได้ เพราะข้าพเจ้าเป็น
โรคชนิดหนึ่งซึ่งไม่มีทางรักษาหาย ขอให้ท่านช่วยกราบขอพระราช
ทานอภัยโทษ และกราบบังคมทูลถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิ
คุณเป็นล้นพ้นของข้าพเจ้าด้วย”
หลังจากอำมาตย์คนนั้นกลับไปแล้ว เพื่อนบ้านและมิตร
สหายของคนขายเนื้อต่างรุมกันตำหนิเขา ว่าไม่ควรปล่อยให้โอกาส
ดีเช่นนี้หลุดมือไป
คนขายเนื้อชี้แจงว่า “พวกท่านคิดว่านี้เป็นโอกาสดีหรือ ตัว
ฉันกลับไม่คิดเช่นนั้น ในใต้ฟ้าไหนเลยจะมีเรื่องราวที่สะดวกง่ายดาย
อย่างนี้ แคว้นนี้มีชายหนุ่มที่หล่อเหลาคมคายสติปัญญาดีอยู่มากมาย
แต่องค์กษัตริย์ไม่ยกพระราชธิดาให้คนอื่น กลับประจวบเหมาะมา
พอใจตัวฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะพระราชธิดามีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์
อย่างยิ่ง ก็แสดงว่าต้องมีข้อบกพร่องอะไรที่ร้ายแรงอยู่อย่างแน่นอน
ถึงแม้ฉันเป็นเพียงคนขายเนื้อคนหนึ่ง ก็ไม่อาจที่จะแต่งงานกับหญิง
ที่ตนไม่ชอบเลย เพียงเพื่อทรัพย์สินเงินทอง"
ทุกคนแม้จะรู้สึกว่าคำพูดของเขามีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็ยัง
ไม่รู้สึกคล้อยตามไปเสียทั้งหมด มีคนหนึ่งถามเขาว่า
“แกไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน”
คนขายเนื้อตอบว่า
“ฉันเป็นคนขายเนื้อ เรื่องอะไรอื่นฉันไม่ค่อยรู้มากนัก แต่
เป็นเรื่องการขายเนื้อละก็ ฉันคือผู้เชี่ยวชาญ เนื้อที่สดใหม่ แม้ราคา
จะแพงขึ้นสักเล็กน้อย ผู้คนก็รุมกันซื้อ แต่ถ้าเป็นเนื้อเก่าที่เริ่ม
ส่งกลิ่น แม้จะขายราคาถูก แล้วยังแถมกระดูกติดมันให้อีก ก็
ไม่มีใครต้องการ”
ท่านสาธุชนทั้งหลาย....
คนจํานวนมากในโลกชอบคิดเข้าข้างตนเอง เวลาจะรักใคร
ชอบใคร บางทีก็รู้ทั้งรู้ว่าคนๆ นั้นเป็นคนไม่ดี ชอบยุ่งอบายมุข เจ้าชู้
เป็นต้น แต่ก็ปลอบใจตนเองว่า เขาอาจจะไม่ดีกับคนอื่น แต่เราเป็น
บุคคลพิเศษ เขาต้องดีกับเราแน่ๆ เลย เสร็จแล้วก็ต้องมานั่งน้ำตา
ตกในในภายหลัง หรือบางครั้งเวลามีคนเอาทรัพย์เอาความโลภมาล่อ
ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล น่าสงสัย แต่ก็คิดเข้า
ข้างตัวเองว่า คงเป็นโชคของเรา รีบคว้าเอาไว้ก่อนดีกว่า แล้วก็มี