ข้อความต้นฉบับในหน้า
62
• ผู้เหน่ายเสียมา
“ขอบคุณทุกท่านที่มีน้ำใจ แต่ทว่าข้าพเจ้ากลับไม่รู้สึก
เสียใจด้วยเรื่องนี้ เสียม้าไปแล้ว ไม่แน่อาจเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งก็ได้”
ผ่านไปไม่กี่วัน เจ้าม้าตัวนั้นได้กลับมาเองและยังพาม้าพันธุ์ดี
อันล้ำค่ามาด้วยอีก 1 ตัว เพื่อนฝูงเมื่อทราบข่าวต่างพากันมาแสดง
ความยินดี แต่เขาพูดว่า
“ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าจนจำเป็นต้องแสดงความยินดี ได้ม้า
มาอีกตัว ไม่แน่อาจเป็นคราวเคราะห์อย่างหนึ่งก็ได้”
ลูกชายของผู้เฒ่าชายชอบม้าพันธุ์ดีตัวนั้นมาก มักขี่ออกไป
เที่ยวเล่นเสมอ ม้าตัวนั้นก็วิ่งเร็วมาก มีอยู่คราวหนึ่งลูกชายของผู้
เฒ่าชายตกจากหลังม้าจนขาพิการข้างหนึ่ง เพื่อนฝูงของผู้เฒ่าชาย
ทราบข่าวนี้ ต่างก็พากันมาแสดงความเสียใจกับเขา ผู้เฒ่าชายกลับ
พูดตอบเพื่อนๆ ด้วยท่าทีสงบเยือกเย็นอย่างยิ่งว่า
“ขาพิการไปข้างหนึ่ง ถึงที่สุดแล้วเป็นเรื่องเคราะห์ร้าย
หรือโชคดี ยังตัดสินได้ยาก”
ต่อมาภายหลังไม่นาน เกิดสงครามระหว่างประเทศจีนกับชน
เผ่าหู ชายฉกรรจ์ทั้งประเทศต่างก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารปกป้อง
ประเทศ สงครามคราวนั้นรบกันอย่างดุเดือดติดพันยาวนาน คน
หนุ่มจํานวนมากได้ตายในสนามรบ แต่ลูกชายของผู้เฒ่าชาย เนื่อง
จากขาพิการจึงไม่ต้องไปเป็นทหาร พำนักอยู่ในบ้านดำเนินชีวิต
อย่างสงบสุข
ท่านสาธุชนทั้งหลาย....
เน่าข่ายเส้นม้า
EH
สรรพสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยงมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา มีลาภ
เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ โลกธรรมทั้ง 8
นี้ ต่างก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป โบราณจึงบอกว่า “เมื่อเจอเรื่องดีใจก็
ให้ยิ้มเพียงมุมปากเดียว อย่าถึงกับหัวเราะฮาๆ ไม่อย่างนั้นถึง
คราวพบเรื่องเสียใจจะต้องร้องไห้โฮๆ” และเมื่อเราพบความยาก
ลำาบาก ก็ขออย่าท้อถอย ให้ถือคติว่า “ยิ่งมืดยิ่งดึก ยิ่งดึกยิ่งใกล้
สว่าง” กัดฟันทำงานค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเปลาะด้วยใจที่เยือกเย็น
มั่นคง ยึดมั่นความดี มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สุดท้ายปัญหาก็จะ
คลี่คลายไป เรื่องร้ายจะกลายเป็นดีในที่สุด
ภูเขาศิลาล้วนย่อมตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
Ide